ข่าวประจำวันที่ 23 พ.ค. 2565

ข่าวในประเทศ

นายณัฐพล รังสิตพล

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)

1. ดัน 7 มาตรการปั้นสินค้าชุมชน (ที่มา: เดลินิวส์, ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2565)

 

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม เปิดเผยว่า ได้เดินหน้าพัฒนาสินค้าวิสาหกิจชุมชนในทุกด้านตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมภูมิภาค ซึ่งเป็นนโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ต้องการให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีรายได้อย่างยั่งยืน โดยดีพร้อมได้เดินหน้าแผน 7 ด้าน เพื่อปั้นชุมชนให้มีศักยภาพเริ่มตั้งแต่พัฒนาคนให้ดีพร้อม โดยจะดึงผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคมเข้ามาร่วมยกระดับการพัฒนาชุมชนตามโมเดลดีพร้อมฮีโร่เพื่อเป็นตัวเชื่อมกับชุมชน, สร้างแบรนด์ชุมชนดีพร้อมเน้นการสร้างแบรนด์ของท้องถิ่นซึ่งเป็นแบรนด์ของชุมชนที่สื่อถึงความโดดเด่นของพื้นที่ เช่น ที่ชัยนาท แบรนด์ของชุมชนสรรพยา อำเภอสรรพยา ใช้โรงพักสรรพยา 100 ปี ชุมชนเนินขาม ชุมชนหนอง มะโมง ชุมชนตลาดย้อนยุคสรรคบุรี เน้นพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นตามอัตลักษณ์ของพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) นอกจากนี้ กรมฯ จะส่งเสริมเครื่องจักรชุมชนดีพร้อมมีดีพร้อมเซ็นเตอร์ที่จะช่วยยกระดับเทคโนโลยีการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงกลางน้ำ โดยการส่งเสริมการนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาให้บริการตามความต้องการของชุมชน เช่น เครื่องเผาข้าวหลามด้วยไฟฟ้า เครื่องขอดเกล็ดปลา เครื่องอบไล่ความชื้นพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันได้พัฒนาตลาดชุมชนดีพร้อม เน้นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้ผู้บริโภคเข้าถึงชุมชน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาซื้อของในชุมชน กระจายสินค้าไปขายตามร้านสะดวกซื้อโมเดิร์นเทรด และผลักดันไปสู่ตลาดออนไลน์ เช่น ดีพร้อมมาร์เก็ตเพลส และแพลตฟอร์มอื่นๆ และยังมีถุงดีพร้อมช่วยขยายโอกาสทางการตลาด รวมทั้งสำรวจความต้องการของตลาดและนำมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์รวมทั้งการหาเงินหมุนเวียนดีพร้อม ซึ่งได้ออกมาตรการสินเชื่อระยะสั้นเพื่อผู้ประกอบการหรือที่เรียกว่าดีพร้อมเปย์ ให้บริการอัตราดอกเบี้ยคงที่แบบขั้นบันไดภายในเวลา 3 ปี  3-5% ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติผ่านโครงการ กสอ. คิด กทบ. ช่วยธุรกิจชุมชน

 

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

 

2. สภาอุตฯ ขอแรงจีนช่วยยกระดับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2565)

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ส.อ.ท. ได้ร่วมหารือกับท่านทูตหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำราชอาณาจักรไทย นายพิริยะ เข็มพล อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำกรุงปักกิ่ง รวมทั้งประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันวิทยาการผู้นำไทย-จีน/ นายกสมาคมมังกรสยามแห่งประเทศ โดยได้หารือถึงการแลกเปลี่ยนนโยบาย และแนวทางความร่วมมือ ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศไทย ในด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน การถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล 5.0 เพื่อนำมาปรับใช้ในทุกภาคธุรกิจ อีกทั้งยังพูดถึงประเด็นอื่นๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือภาคธุรกิจ หรือภาคอุตสาหกรรม กลับมาเข้มแข็งภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่น การนำเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งจะเป็นการนำร่องให้อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการไทย ต้องเร่งปรับตัว และยกระดับการแข่งขันให้เท่าเทียมกับตลาดโลกในทุกๆ มิติ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งและเติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน ทั้งอุตสาหกรรมรายใหญ่ หรือธุรกิจ SMEs ซึ่งปัจจุบันสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้นำที่มียอดจัดส่งยานยนต์ไฟฟ้าสูงสุด ของการจัดส่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการสนับสนุนและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ทาง ส.อ.ท. ยังได้ร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดกิจกรรมอบรม "Thai SME GP แต้มต่อธุรกิจดิจิทัล และ อุปกรณ์การแพทย์ สู่คู่ค้าภาครัฐ" ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางด้านการตลาดในประเทศโดยเฉพาะคู่ค้ากับภาครัฐ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะมีจัดอีกจำนวน 3 ครั้ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ตามลำดับ

 

 

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร

เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)

3. สศก. ห่วงต้นทุนเกษตรพุ่ง (ที่มา: ข่าวสด, ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2565)

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอมรับกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณมีปัญหา มีปัจจัยทำให้ต้นทุนการทำการเกษตรของไทยเพิ่มขึ้น เป็นภาระต่อเกษตรกร เช่น ราคาปุ๋ยที่คิดเป็น 10% ค่าแรงงานที่จะสูงประมาณ 20% ของต้นทุนการเกษตร แถมแรงงานยังหายากเรียกว่าขาดแคลนเลยก็ได้ เป็นต้น ขณะนี้เงินเฟ้อสูงขึ้นทั่วโลก หลายประเทศกังวลว่าจะเกิดวิกฤตอาหาร จนกังวลว่าจะไม่มีอาหารเพียงพอ หลังราคาอาหาร สินค้าเพื่อการบริโภคสูงขึ้น หลายประเทศเริ่มประกาศหยุดส่งออกอาหาร เช่น อินโดนีเซีย หยุดส่งออกน้ำมันปาล์ม อินเดียและคาซัคสถานหยุดส่งออกข้าวสาลี สำหรับไทยผลผลิตด้านการเกษตรทั้งพืช ปศุสัตว์ ประมง สศก. ยืนยันมีเพียงพอบริโภคในประเทศและส่งออก

อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าเกษตรของไทยหลายตัวปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งออกและจำเป็นต่อการดำรงชีพ เห็นได้จากราคานำมันปาล์มที่สูงขึ้น กระทบการบริโภคน้ำมันปาล์มขวดของครัวเรือน เชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจหารือปรับส่วนผสมของน้ำมันบี 5 เหลือเป็นบี 3

 

ข่าวต่างประเทศ

 

4. มาเลเซียยังคงพิจารณาแผนลดภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม แม้อินโดนีเซียเลิกคำสั่งห้ามส่งออกตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.นี้ (ที่มา: ข่าวหุ้น, ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2565)

ซูไรดา คามารุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงโภคภัณฑ์มาเลเซีย เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้เสนอต่อกระทรวงการคลังที่จะลดภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มชั่วคราวเหลือ 4-6% จาก 8% ในปัจจุบัน ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาข้อเสนอนี้ ทั้งนี้ ทางด้านประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า จะยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 หลังจากที่สถานการณ์อุปทานน้ำมันพืชในประเทศดีขึ้น โดยอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่สุดของโลก ได้ห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำมันปาล์มจำนวนหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2565 เพื่อพยายามบรรเทาราคาน้ำมันพืชในประเทศที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้มาเลเซียจะทบทวนข้อเสนอที่จะลดภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มชั่วคราว หลังจากที่อินโดนีเซียตัดสินใจเลิก ห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าการตึงตัวของน้ำมันพืชจะบรรเทาลงภายในไตรมาสสี่ แต่ราคาจะยังทรงตัวจนถึงกลางปี 2566

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปาล์มดิบน่าจะลดลง เพราะมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นรออยู่ แต่ราคาจะยังทรงตัวจนถึงกลางปี 2566 เนื่องจากอุปทานทั่วโลกตึงตัว ตลาดแข็งแกร่ง และมีการรับซื้อจากประเทศจีน โดยจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญจะเพิ่มอุปทานน้ำมันปาล์มในปีนี้เมื่อเปิดเศรษฐกิจอย่างช้าๆ โดยการตึงตัวของน้ำมันพืชและอุปทานไขมันจะบรรเทาลงภายในไตรมาสที่สี่ แต่ก็ไม่มากนัก โดยมีแนวโน้มว่าน่าจะฟื้นตัวมากขึ้นในปี 2566

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)