ข่าวประจำวันที่ 22 ธ.ค. 2563

ข่าวในประเทศ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

1. กระทรวงอุตสาหกรรม สั่งข้าราชการสังกัดในสมุทรสาครงดออกนอกพื้นที่ (ที่มา: ศูนย์ข่าวแปซิฟิค , ประจำวันที่ 22 ธันวาคม 2563)

ตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานความคืบหน้าการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในสมุทรสาคร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดอื่นทั่วประเทศ กำชับให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งปฏิบัติตามแนวทางและคำสั่งจังหวัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยสมุทรสาครมีโรงงานในนิคมและนอกนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครกว่า 6,082 โรงงาน คนงานกว่า 345,464 คน สำหรับข้าราชการและพนักงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ขอให้ติดตามสถานการณ์และมาตรการของจังหวัดอย่างใกล้ชิด และกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานภายในของสำนักงาน เช่น การให้สามารถปฏิบัติงานที่บ้าน (work from home) ได้ตามความจำเป็น และให้งดเดินทางออกจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร หากมีความจำเป็นต้องปฏิบัติงานติดต่อกับส่วนราชการอื่นให้ใช้การประสานงานทางโทรศัพท์ทางระบบสารสนเทศหรือการประชุมโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก สำหรับส่วนราชการอื่นๆ ที่ก่อนหน้านี้เดินทางเข้าไปในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและหรือพื้นที่เสี่ยงระมัดระวัง ให้สังเกตอาการของเจ้าหน้าที่ และให้ส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหรือเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทราบทุกคน และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีการประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมโรคเด็ดขาดในช่วงเวลาที่จังหวัดสมุทรสาครกำหนด ให้พิจารณาดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรมทั้งหมดให้งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการแจ้งให้หรือประสานสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครทราบเพื่อแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือแจ้งนโยบายของผู้ว่าและกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ประสานงานกันก่อนในช่วงระหว่างนี้ให้ใช้การติดต่อประสานงานทางโทรศัพท์เทคนิคหรือช่องทางทางเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ แทนการเข้าพื้นที่ และให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องสอดรับอย่างเคร่งครัด

 

นายพิศาล พงศาพิชณ์
เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)

2. มกอช. ผนึกกำลัง 3 AB ขับเคลื่อนระบบงานแบบเครือข่าย : Single platform (ที่มา: สยามรัฐ , ประจำวันที่ 22 ธันวาคม 2563)

นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า การดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม เนื่องจากหน่วยงานแต่ละแห่งต่างมีภารกิจที่แยกจากกันมาโดยตลอด การควบรวมหน่วยงานจึงเป็นกระบวนการที่ต้องหารือร่วมกันอย่างละเอียด โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอข้อคิดเห็นว่า ควรมีการหารือกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะหน่วยงาน AB ที่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินงานภายใต้ประเด็นปฏิรูปนี้ รวมทั้งให้มีการขยายเวลาในการผลักดันเรื่องนี้ออกไปอีกระยะหนึ่งเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม จากข้อคิดเห็นของ สศช. AB ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้หารือและพิจารณาการดำเนินงานร่วมกัน และมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะดำเนินการบูรณาการทำงานในรูปแบบเครือข่าย (Single platform) ซึ่งจะทำให้ลดความซ้ำซ้อนในการตรวจสอบและรับรอง มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งลดขั้นตอนการทำงานและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการรับรองระบบงาน โดยภายใต้โครงสร้างการบริหารงานในรูปบบเครือข่าย (Single platform) มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการทั้ง 4 หน่วยงาน เป็นประธานร่วม และผู้แทนจาก AB ทั้ง 4 แห่ง ร่วมเป็นคณะกรรมการ และแต่งตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ มกอช. ในการร่วมบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่มาตรฐานต่างๆไปสู่ผู้ใช้ รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับผู้ใช้เกี่ยวกับมาตรฐาน ปัจจุบัน มกอช. ได้มีการประกาศมาตรฐานสินค้าเกษตร รวมจำนวน 356 เรื่อง แบ่งเป็น มาตรฐานทั่วไป 350 เรื่อง และมาตรฐานบังคับ ที่บังคับใช้แล้ว 6 เรื่อง แต่ไม่สามารถเผยแพร่มาตรฐานไปสู่ผู้ใช้ อาทิ เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้าเกษตร ได้อย่างทั่วถึง ฉะนั้น หน่วย AB จึงถือเป็นเครือข่ายพันธมิตรที่สำคัญ ในการเผยแพร่มมาตรฐาน และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารสูงสุดของ AB ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการร่วมมือกันทางด้านการรับรองระบบงาน จึงเห็นควรให้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรับรองระบบงานในประเทศไทยแบบเครือข่าย (Single platform) เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือด้านการบริหารงาน และข้อตกลงการดำเนินการด้านการรับรองระบบงานระหว่าง AB ทั้ง 4 แห่ง ซึ่งเป็นการลงนามระหว่างนายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการ มกอช. กับนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และนายแพทย์ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยมีนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานสักขีพยาน

 

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.)

3. ส.อ.ท. แอร์เอเชีย ต่อยอดธุรกิจขนส่งทางอากาศ การค้าออนไลน์ (ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ , ประจำวันที่ 22 ธันวาคม 2563)

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างส.อ.ท.กับแอร์เอเชียครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของงานสมาชิกสัมพันธ์ ที่ช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจจากสมาชิกสู่สมาชิก นอกจากสมาชิก ส.อ.ท. จะได้รับความคล่องตัวในการเดินทางทำธุรกิจแล้ว ยังช่วยสร้างวิถีการค้าใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและใช้ความเข้มเข็งของระบบขนส่งทางอากาศของแอร์เอเชียช่วยเสริมการกระจายสินค้าสู่ตลาดเพื่อนบ้านและตลาดโลกด้วย

อย่างไรก็ตาม นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า  แอร์เอเชียมุ่งพัฒนาและต่อยอดธุรกิจบริการใหม่ๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากธุรกิจสายการบินแล้ว จะพัฒนา airasia.com ให้เป็นช่องทางการให้บริการจำหน่ายตั๋วเครื่องบินและบริการอื่นๆ อย่างครบวงจร พร้อมเชื่อมธุรกิจสู่ธุรกิจ โดยจะนำนวัตกรรมมาสร้างสีสันเเละโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้บริการของแอร์เอเชียและสมาชิก ส.อ.ท. ต่อไป นอกจากนี้ สายงานสมาชิกสัมพันธ์ จัดเตรียมสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก ส.อ.ท. อีกมากมาย เช่น โครงการตรวจสุขภาพประจำปีกับ ส.อ.ท. ช่วยลดค่าใช้จ่ายสมาชิกลงกว่า 30%, ลงขายสินค้าฟรี ผ่านระบบ e-Commerce บนเว็บไซต์ ftiebusiness.com, บัตรเครดิต ICBC-FTI UnionPay เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจในจีน, บริการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าออนไลน์ e-C/O, บริการออกเลขหมายและให้คำปรึกษาการใช้บาร์โค้ด และส่วนลดในการเข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ ของ FTI Academy

 

ข่าวต่างประเทศ

Description: C:\Users\Sony\Desktop\4.jpg

4. ไบเดน โชว์ฉีด วัคซีนโควิดฯ ปลุกขวัญมะกันมั่นใจ (ที่มา: เว็บไซต์สยามรัฐ , ประจำวันที่ 22 ธันวาคม 2563)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ แห่งพรรคเดโมแครต เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แล้ว ที่โรงพยาบาลคริสตินาแคร์ ใกล้บ้านพักของเขา ในเมืองนวร์ก รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่นายไบเดนเข้ารับการฉีดเป็นเข็มแรกข้างต้นนั้น เป็นของบริษัทไฟเซอร์ สหรัฐฯ ที่วิจัยพัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค เยอรมนี โดยมีการถ่ายทอดสอดทางสถานีโทรทัศน์ด้วย พร้อมกันนี้ รายงานข่าวระบุว่า การเข้ารับการฉีดวัคซีนของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ดังกล่าว เพื่อโน้มน้าวและสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนชาวสหรัฐฯ ให้เห็นถึงความปลอดภัยของวัคซีน และไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)