ข่าวประจำวันที่ 11 ม.ค. 2564

ข่าวในประเทศ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

1. เปิดแผนดัน GDP อุตสาหกรรม โต 5% ชูอาหาร อุปกรณ์แพทย์ (ที่มา: เดลินิวส์ , ประจำวันที่ 11 มกราคม 2564)

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงแผนการดำเนินการกระทรวงอุตสาหกรรมปี 64 ว่า ได้ประมาณการภาคอุตสาหกรรมปี 64 คาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ขยายตัว 4-5% เพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่คาดว่า ติดลบ 8% ส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ภาคอุตสาหกรรมหรือ GDP ภาคอุตสาหกรรม คาดว่า ขยายตัว 4-5% เพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่ติดลบ 7% ภายใต้สมมุติฐานอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 29-32 บาทต่อดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และมีวัคซีนกลางปี 64

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการศึกษาของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้คาดการณ์อุตสาหกรรมเด่นที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นผลจากความกังวลจากสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่อุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์ ปี 63 คาดว่า เพิ่มขึ้น 17.5% เทียบจากปีก่อน เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมถุงมือยาง ที่คาดว่า ปี 63 เพิ่มขึ้น 23.2% จากความต้องการใช้ทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสหรัฐ อังกฤษ และญี่ปุ่น ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารไม่รวมน้ำตาล คาดว่าทั้งปี 63 จะเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากการสำรองสินค้าทั้งตลาดในประเทศและส่งออกและยังมีอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดที่ใช้ในครัวเรือน คาดว่า ปี 63 เพิ่มขึ้น 1% จากความต้องการใช้สินค้าประเภทตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟและกระติกน้ำร้อน เนื่องจากผู้บริโภคต้องการสำรองอาหารสดไว้ที่บ้านเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการลดราคาสินค้า ส่วนเครื่องซักผ้ามีการส่งออกไปตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เตรียมเร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรการต่างๆ กลไกการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ ในแต่ละช่วงเวลาเพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ คาดว่าจะมีการประชุมในช่วงต้นปี 64, อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ ปตท. อยู่ระหว่างการพัฒนาดิจิทัล แพลตฟอร์มเพื่อบริหารจัดการและเชื่อมโยงซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของประเทศอย่างครบวงจร ส่วนอุตสาหกรรมชีวภาพ จะเร่งขจัดอุปสรรคการลงทุนและสร้างปัจจัยสนับสนุน นำเสนอร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อออกเป็นกฎหมายต่อไป ขณะที่อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร จะเดินหน้ามาตรการสร้างนักรบอุตสาหกรรมอาหารพันธุ์ใหม่ รวมทั้งเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เป็นต้น

 

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

2. กรมทรัพย์สินทางปัญญาชี้เป้า ทำระบบแจ้งเตือนสิทธิบัตรหมดอายุ (ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ , ประจำวันที่ 11 มกราคม 2564)

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการจัดทำระบบแจ้งเตือนกรณีสิทธิบัตรที่กำลังจะหมดอายุ โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าอาหาร เกษตร ยาและสินค้าอุตสาหกรรม ที่เป็นเทรนด์ของโลก ซึ่งจะเน้นสิทธิบัตรที่กำลังจะหมดอายุในอีก 5 ปีข้างหน้า และจะแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการของไทยให้รับทราบว่าจะมีสิทธิบัตรใดบ้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเตรียมความพร้อมในการผลิตสินค้าที่กำลังจะหมดอายุสิทธิบัตรเหล่านั้น อย่างยาบางชนิดต้องใช้เวลาในการพัฒนา และทดสอบหลายปีกว่าจะผลิตออกมาจำหน่ายได้ เมื่อถึงวันที่หมดอายุการคุ้มครองแล้ว จะได้สามารถผลิตและใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าไทย ลดภาระการนำเข้าสินค้าที่เคยมีสิทธิบัตรจากต่างประเทศ โดยคาดว่าก่อนกลางปีนี้จะทำระบบแจ้งเตือนดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม “ปกติการคุ้มครองสิทธิบัตรจะมีอายุ 20 ปี นับตั้งแต่วันยื่นคำขอจดทะเบียนคุ้มครองและทุกวันนี้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ แล้วนำมาจดสิทธิบัตรเป็นจำนวนมาก ทั้งนวัตกรรมอาหาร นวัตกรรมเกษตร ยา และสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งสินค้าเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเทรนด์ของโลก แต่พอหมดเวลาคุ้มครองแล้ว สิทธิบัตรเหล่านี้ ใครก็สามารถนำไปผลิตได้ กรมจึงจะทำระบบแจ้งเตือนก่อนที่จะหมดอายุความคุ้มครองในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้เตรียมพัฒนา การผลิต เมื่อถึงวันแรกที่หมดอายุคุ้มครองจะได้เอามาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้เลย หากไม่มีการแจ้งเตือน เมื่อสิทธิบัตรหมดอายุแล้ว ไทยอาจยังต้องซื้อสินค้าที่หมดอายุสิทธิบัตรแล้วในราคาแพงเช่นเดิม อย่างยาบางชนิดที่ไทยยังนำเข้าในราคาสูง ทั้งที่สามารถนำมาผลิตเองได้แล้ว” อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญากล่าว

 

ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ

3. พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนาหัตถกรรมไทยสู่ตลาดโลก (ที่มา: ทรานสปอร์ต เจอร์นัล , ประจำวันที่ 11 มกราคม 2564) 

ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า "อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของไทยที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยสามารถสร้างมูลค่าการค้าปีละมากกว่า 200,000 ล้าน สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ตระหนักถึงความจำเป็นของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย  จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน กับสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย ในครั้งนี้ ด้วยทั้ง 2 องค์กร มีแนวทางการดำเนินงานบนแนวทางดียวกัน ความร่วมมือกันในครั้งนี้มุ่งเน้นเพื่อสร้างการประยุกต์องค์ความรู้ และพัฒนาบุคลากรของทั้งสองฝ่ายรวมถึงสมาชิกและเครือข่ายของทั้งสองฝ่ายในเรื่องผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทย   สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและแฟชั่น และเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทยในกลุ่มผ้าทอพื้นเมือง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าทอ พื้นเมืองให้มีคุณภาพ (Quality)  มีรูปแบบที่ทันสมัย (Creative) ตอบสนองความ ต้องการของตลาด ก่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและยอดจำหน่ายให้มากขึ้น (Marketing) และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development)

อย่างไรก็ดี ด้าน ดร.สุรภีร์ โรจนวงศ์ นายกสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย กล่าวว่า "การขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยอย่างเป็นรูปธรรมนั้น ต้องอาศัยการดำเนินการแบบบูรณาการของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ  สมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากร สมาชิกและเครือข่ายของทั้งสองฝ่าย" เพื่อตอกย้ำให้ชัดเจนถึงศักภาพและฝีมือของคนไทย ทั้ง 2 องค์กรได้จัดให้มีการแสดงผลิตภัณฑ์ต้นแบบของกลุ่มผู้ผลิตผ้าไทยที่เข้าร่วมโครงการ "พัฒนาสินค้าผ้าไทยสู่ตลาดโลกด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  พร้อมจะพัฒนาแฟชั่นไทยให้เป็นศูนย์กลางในอาเซียน และเติบโตในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป

 

ข่าวต่างประเทศ

4. โจ ไบเดน ปลื้ม ทรัมป์ ไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตน (ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ , ประจำวันที่ 11 มกราคม 2564)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าบรรยากาศการเมืองสหรัฐอเมริกา หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลดท่าทียื้ออำนาจประกาศยอมรับการเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างสงบเรียบร้อย จากกรณีผู้สนับสนุนก่อเหตุความวุ่นวายบุกรัฐสภากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ป่วนการลงมติรับรองผลเลือกตั้งของสภาคองเกรส และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน กลายเป็นตราบาปของชาติแม่แบบประชาธิปไตยโลก ทั้งนี้ การลงมติรับรองผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของสภาคองเกรส หมายความว่าจะไม่มีอะไรขัดขวางการขึ้นสู่อำนาจของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเวลาเที่ยงตรงของวันที่ 20 มกราคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของนายไบเดน และจะทำให้นายทรัมป์กลายเป็นผู้นำคนที่ 4 ของสหรัฐฯ ที่ไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนผู้นำคนใหม่ ต่อมานายไบเดนกล่าวถึงกรณีนายทรัมป์ไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนว่า ถือเป็นเรื่องดี และเป็นเรื่องไม่กี่เรื่องที่ผมกับเขาเห็นพ้องตรงกัน ความเลวร้ายของนายทรัมป์เหนือกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้ เขาถือเป็นตัวน่าอับอายของประเทศ ทำให้สหรัฐฯขายหน้าต่อชาวโลก เขาไม่คู่ควรที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้ นอกจากนี้ นายไบเดนยังกล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง หลังได้ยินข่าวว่านายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้าร่วมพิธีสาบานตน ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งนายบิล คลินตัน นายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช และนายบารัค โอบามา จะเดินทางมาร่วมพิธีสาบานตนของนายไบเดนด้วยเช่นกัน อีกทั้งวันเดียวกัน สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตจะเดินหน้ากระบวนการถอดถอนหรืออิมพีชเมนต์แก่นายทรัมป์ โดยจะนำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 11 มกราคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หลังรวบรวมเสียงสนับสนุนได้เพียงพอ พร้อมระบุว่าพรรครีพับลิกันอยู่ในสภาพเสียงแตกในเรื่องนี้ มีทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุนให้อิมพีชเมนต์นายทรัมป์ ซึ่งการอิมพีชเมนต์ต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนฯ และเสียงเกิน 2 ใน 3 ในวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม ถึงกระบวนการจะทำไม่สำเร็จ แต่จะถือว่านายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่ถูกยื่นเรื่องถอดถอนถึง 2 ครั้งระหว่างการดำรงตำแหน่ง

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)