ข่าวในประเทศ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
1. รัฐบาลหนุนอุตสาหกรรม ชีวภาพดันไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางอาเซียน (ที่มา: แนวหน้า , ประจำวันที่ 6 กันยายน 2564)
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรัฐบาลเร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชีวภาพ ให้ไทยเป็นศูนย์กลางแห่งอาเซียน มีผลิตภัณฑ์เป้าหมายคือ พลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ และชีวเภสัชภัณฑ์ สอดรับ วาระแห่งชาติโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio- Circular -Green Economy) ที่ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาเสริมสร้างจุดแข็ง ของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ประมาณการว่า อุตสาหกรรมชีวภาพจะขยายตัวต่อเนื่อง ค่าเฉลี่ยของตลาดโลกเติบโตอยู่ที่ 13.8% ต่อปี (ช่วงปี 2558-2568) โดยจากรายงานความก้าวหน้าของมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี พ.ศ. 2561-2570 จัดทำโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอต่อ ครม. เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศในการผลักดันให้เป็นผู้นำอุตสาหกรรม ชีวภาพครบวงจรในอาเซียน (Bio Hub of ASEAN) เนื่องจากเป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่ประเทศในโลกที่มีศักยภาพด้านวัตถุดิบจากสินค้าเกษตร โดยเป็นผู้ส่งออกมันสำปะหลังและน้ำตาล อันดับต้น ๆ ของโลก มีฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และเป็นผู้นำการผลิตและการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในอาเซียน ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ข้อมูลว่า หากภาคเอกชนดำเนินโครงการต่าง ๆ ได้ตามแผน จะเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1.49 แสนล้านบาท เบื้องต้น ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายไว้ คือ เขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ภาคอีสานตอนกลาง (Bio- Northeast) และภาคเหนือตอนล่าง (Bio-North)
อย่างไรก็ตาม แผนการก่อสร้างโรงงานของภาคเอกชนมีบางส่วนถูกกระทบเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ยังมีการลงทุนหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อน อาทิ 1.) โครงการผลิตพอลิเมอร์ชีวภาพชนิดโพลีแลคติค แอซิด ที่ จ.นครสวรรค์ 2.) โครงการ ไบโอ ฮับ เอเซีย จ.ฉะเชิงเทรา 3.) โครงการลพบุรีไบโอคอมเพล็กซ์ จ.ลพบุรี อยู่ระหว่างออกแบบโครงการและเจรจากับนักลงทุนที่สนใจ อีกทั้ง สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ ทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้กำหนดสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 8-13 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทกิจการและคุณค่าของโครงการ รวมถึงสิทธิและประโยชน์อื่น ๆ ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้สร้างแรงจูงใจเพื่อเพิ่มความต้องการการใช้พลาสติกย่อยสลายทางชีวภาพ โดย สศอ. ได้ออกใบรับรองผลิตภัณฑ์พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่ผ่านหลักเกณฑ์แก่ผู้ผลิต สามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นขอลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 1.25 เท่าของค่าใช้จ่ายที่ซื้อผลิตภัณฑ์พลาสติกย่อยสลายได้

นายอดิศร อาภาสุทธิรัตน์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท โนวาเมดิค จำกัด และ
ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
2. เครื่องมือแพทย์โต 10% ส.อ.ท. ปลื้มไทยขึ้นเป็นฐานผลิต (ที่มา: แนวหน้า , ประจำวันที่ 6 กันยายน 2564)
นายอดิศร อาภาสุทธิรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โนวาเมดิค จำกัด และ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และสุขภาพของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยปัจจัยหนุนสำคัญมาจากความต้องการทางด้านการแพทย์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกที่เพิ่มขึ้น โดยประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ เช่น ถุงมือการแพทย์ เลนส์แว่นตา ไซริงค์ ชุดสายน้ำเกลือ เป็นต้น โดยมีผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตมากกว่า 800 ราย ในขณะที่กลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไทยยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ จากการส่งเสริมของภาครัฐ ที่ได้ผลักดันผลงานวิจัยด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Startup) ของไทยให้นำผลงานเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์มากขึ้น ประกอบกับการมีจุดแข็งจากพื้นฐานอุตสาหกรรมเชื่อมโยงทั้งการผลิตรถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม ระบบออโตเมชั่นต่าง ๆ ซึ่งคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และสุขภาพของไทยจะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี นายชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ รองผู้อำนวยการด้านวิชาการและนวัตกรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเซลส์ (TCELS) กล่าวว่า ทีเซลส์ มีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ในประเทศ ซึ่งมีมูลค่ารวมมากกว่า 1.3 ล้านล้านบาท ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมการผลิตยา ชีววัตถุ สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ เครื่องสำอาง อาหารเสริม เครื่องมือแพทย์และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ส่วนอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และหุ่นยนต์ทางการแพทย์นั้นมีอัตราการขยายตัวถึง 10% ต่อปี โดยปัจจุบันระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติและ AI Medical ได้ถูกพัฒนาและนำมาใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มเข้ามามีบทบาททั้งต่อการรักษา การบริการทางการแพทย์ รวมถึงการดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา ทีเซลล์ ได้สนับสนุนด้วยการจัดงานโครงการประกวดหุ่นยนต์ทางการแพทย์ i-MEDBOT Innovation Contest 2021 ขึ้นโดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อสนับสนุนผลงานของนวัตกรรมไทยให้สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยและส่งเสริมให้ก้าวสู่การผลิตเชิงอุตสาหกรรมต่อไป

นายอภิภพ พึ่งชาญชัยกุล
รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
3. ระดมแก้วิกฤติขยะติดเชื้อ (ที่มา: เดลินิวส์ , ประจำวันที่ 6 กันยายน 2564)
นายอภิภพ พึ่งชาญชัยกุล รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ากลุ่มพลาสติก ส.อ.ท., ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพ มหานคร (กทม.) และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย เตรียมหารือวางแนวทางแก้ปัญหาขยะติดเชื้อภายในบ้านที่อยู่อาศัย อาคารคอนโดมิเนียม หอพักร่วมกันในวันที่ 6 กันยายนนี้ เนื่องจากขณะนี้ปริมาณขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก หลังจากที่รัฐกำหนดให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่รุนแรงกักตัวที่บ้านหรือโฮม ไอโซเลชั่น แต่การบริหารจัดการขยะติดเชื้อ ยังขาดประสิทธิภาพ ไม่เร่งแก้ปัญหาจะยิ่งสร้างปัญหาทั้งการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมได้ ทั้งนี้ เบื้องต้นจะขอความร่วมมือให้หมู่บ้านจัดสรร นิติบุคคล จัดหาถังแดงมาวางไว้ เพื่อให้ลูกบ้านมาทิ้งขยะติดเชื้อแล้วประสานรถ กทม. มารับไปกำจัดแบบวันต่อวัน หรือมากสุด 2 วันครั้ง จากปัจจุบันรถขยะ กทม. จะบริการรับขยะติดเชื้ออยู่แล้ว แต่ขาดการเชื่อมต่อกัน โดยจะนำร่องในพื้นที่ กทม. ก่อน ซึ่งจะหารือในรายละเอียดอีกครั้งว่า แต่ละหน่วยงานมีข้อเสนออย่างไร เพื่อเป็นแนวปฏิบัติที่จะทำให้เกิดขึ้นได้จริง และหากเป็นไปได้ต้องมองภาพปัญหาขยะติดเชื้อรวมทั้งประเทศด้วย โดยก่อนหน้านี้รัฐ และผู้พัฒนาอสังหาฯ ได้เห็นพ้องต้องกันว่า จะปรับปรุงกฎหมายอาคารชุดที่ต่อไป จะต้องไม่สร้างปล่องรับขยะจากด้านบน แต่ให้ลูกบ้านเดินลงมาทิ้งขยะด้านล่างเอง ให้แยกถังขยะแต่ละประเภทให้ชัดเจนแต่ยังไม่คืบหน้า
อย่างไรก็ตามปัจจุบันการคัดแยกขยะ ยังจัดการไม่ได้ผลนักเพราะแม้บางบ้านจะใส่หน้ากาก และชุดตรวจเอทีเคในถุงแดงแต่สุดท้าย จะไปกองรวมกันในถังขยะทั่วไปกลายเป็นขยะปกติที่จะไปกองรวมในหลุมฝังกลบ กทม. ซึ่งมีโอกาสเล็ดลอดไปสู่สิ่งแวดล้อมสูง ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดกรมอนามัย ออกมาระบุปริมาณมูลฝอยติดเชื้อช่วง มกราคม-มิถุนายนที่ผ่านมา รวม 31,709 ตัน เฉพาะมิถุนายน พบปริมาณมูลฝอยติดเชื้อสูงที่สุดเฉลี่ย 210 ตันต่อวัน คาดว่า เป็นผลจากนโยบายแยกกักตัวที่บ้าน และการแยกกักตัวในชุมชน อาจทำให้ขยะมูลฝอย และมูลฝอยติดเชื้อจากครัวเรือนมากขึ้น
ข่าวต่างประเทศ
![]()
4. กรุงปักกิ่งเผยแผนสร้างเมืองขึ้นสู่ศูนย์กลางการบริโภคระหว่างประเทศ (ที่มา: อินโฟเควสท์ , ประจำวันที่ 6 กันยายน 2564)
กรุงปักกิ่งเปิดเผยมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการเปิดร้านค้าใหม่อีกหลายพันแห่งในตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อก้าวขึ้นสู่เมืองศูนย์กลางการบริโภคระหว่างประเทศ โดยสำนักพาณิชย์เทศบาลนครปักกิ่งได้ออกแผนการดำเนินงาน โดยระบุว่า ปักกิ่งจะดำเนินโครงการเฉพาะ ซึ่งรวมถึงโครงการที่มุ่งเน้นสถานที่การบริโภคแห่งใหม่ แบรนด์ใหม่ การบริโภคดิจิทัล และการพัฒนาวัฒนธรรม การท่องเที่ยว กีฬา การศึกษา และการบริโภคเชิงการแพทย์ นอกจากนี้ นวัตกรรมและร้านค้าเรือธงของแบรนด์ระดับชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 3,000 แห่ง คาดว่าจะเปิดได้ภายในปี 2568 อีกทั้งปักกิ่งจะสร้างพื้นที่ราว 10 แห่งที่รวบรวมแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศ และบ่มเพาะแบรนด์ด้านการบริโภคใหม่มากกว่า 100 แบรนด์
อย่างไรก็ดี นายหยาน ลี่กัง หัวหน้าสำนักพาณิชย์เทศบาลนครปักกิ่ง กล่าวว่า ด้วยความพยายามตลอด 5 ปี กรุงปักกิ่งจะกลายเป็นเมืองศูนย์กลางการบริโภคระหว่างประเทศที่มีอิทธิพล มีศักยภาพในการแข่งขัน และมีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนได้อนุมัติผลักดันกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครกวางโจว นครเทียนจิน และนครฉงชิ่ง ให้เป็นแกนนำสู่การพัฒนาเมืองศูนย์การบริโภคระหว่างประเทศ
หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)