ข่าวประจำวันที่ 10 พ.ค. 2565

ข่าวในประเทศ

นายสินิตย์ เลิศไกร

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

1. พาณิชย์ลุ้นญี่ปุ่นลงทุนเพิ่มหลังโควิดซา (ที่มา: ข่าวสด, ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2565)

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างการเปิดงานสัมมนาเชิงนโยบาย "ความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้ามิติใหม่ ไทย-ญี่ปุ่น" ในโอกาสฉลองครบรอบ 135 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ว่า ภาครัฐและเอกชนของไทยและญี่ปุ่นเข้าร่วมนำเสนอแนวทางการสร้างความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยญี่ปุ่น ในรูปแบบใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ การส่งเสริมผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA)   ข้อริเริ่มการลงทุนเอเชีย-ญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะประโยชน์จากการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาคจากความตกลง RCEP และเสนอแนวทางการกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ในรูปแบบใหม่ โดยปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งของไทยมายาวนาน ปัจจุบันมีกว่า 6,000 บริษัท ทั้งนี้ ทางด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC) กล่าวว่า เอกชนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุดครองส่วนแบ่ง 37.36% การร่วมลงทุนกับอุตสาหกรรมของไทยซึ่งเป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจำนวน 45 กลุ่ม ซึ่งมีสัดส่วน 50% ของจีดีพีของไทย โดย 5 อุตสาหกรรมหลักที่ญี่ป่นลงทุน ได้แก่ ยานยนต์ 10.9% เหล็กและผลิตภัณฑ์ 8.3% เครื่องจักร 7.65% เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ 6.6% โดยหลังจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และภาวะสงครามในปัจจุบันมองว่าญี่ปุ่นจะมีการลงทุนมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะการลงทุนในไทย ซึ่งไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้งของสงคราม แต่จะต้องเร่งหามาตรการความร่วมมือเพื่อรักษา supply chain ของนักลงทุนให้ยังอยู่ในไทยให้มีวัตถุดิบท้องถิ่นในไทยให้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายทาเคโอะ คาโตะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะเจอกับปัญหาโควิด แต่จำนวนสมาชิกของหอการค้าญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยก็มีจำนวนลดลงเพียงเล็กน้อย โดยจากผลสำรวจความคิดเห็นนักธุรกิจญี่ปุ่น พบว่า ปัญหาที่เป็นอุปสรรค คือ ราคาวัตถุดิบและต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ส่วนปัญหาการลงทุนในไทยนั้นเรื่องสำคัญ คือ ปัญหาค่าแรงงานมีราคาแพง รวมทั้งการเก็บภาษีแรงงานซึ่งหอการค้าญี่ปุ่นฯ ได้นำเสนอปัญหาเพื่อให้รัฐบาลไทยเร่งแก้ไข

 

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)

2. พาณิชย์ชี้ช่องรุกตลาดฟิลิปปินส์ อาหารและเครื่องดื่มมีโอกาสทำเงิน (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2565)

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากน.ส.จันทนา โชติมุณี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ถึงโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ หลังจากที่ปัจจุบัน รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย และหาซื้อสินค้าในร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมค้าปลีกกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบ และมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ผลจากการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกได้เห็นพฤติกรรมการช้อปแบบล้างแค้นของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ โดยผู้บริโภคกระตือรือร้นมากขึ้น และร้านค้าปลีกต่างๆ ก็พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจมากขึ้น โดยการใช้จ่ายแบบแก้แค้นของผู้บริโภคที่สามารถจับจ่ายได้ คาดว่าจะช่วยชดเชยผลกระทบและความเสียหายจากการสูญเสียรายได้ในช่วงการบังคับใช้มาตรการกักกันชุมชนที่เข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่มีโอกาสในการจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกมีหลากหลาย ไม่ว่าจะกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ความงาม และเครื่องสำอาง ของใช้ของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น และการเข้าไป/จำหน่ายในช่องทางค้าปลีก ปัจจุบันถือเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ และคาดว่าจะเติบโตได้อีกมากในอนาคต

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

3. จี้เพิ่มฝีมือแรงงานรับตปท. (ที่มา: เดลินิวส์, ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2565)

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพอใจจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางหลั่งไหลเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น หลังครบ 1 สัปดาห์ ที่รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. คลายล็อกรับเปิดประเทศเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา และยกเลิกมาตรการเทสต์แอนด์โก ผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น เพื่อสนับสนุนการฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ได้รายงานให้ทราบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางเข้าไทยแล้วมากกว่า 3 แสนคน นอกจากนี้ ททท. ยังได้คาดการณ์ว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กันยายนนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเดินทางเข้าประเทศต่อเนื่องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าเดือนละ 3 แสนคน ขณะที่ในช่วงปลายปีตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ล้านคน ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเตรียมความพร้อมในทุกด้านทั้งด้านการพัฒนาทักษะแรงงานที่ทำงานด้านบริการการท่องเที่ยว การพัฒนาปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักรองรับการเปิดประเทศ รวมทั้งเน้นย้ำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่ เพื่อให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างสนุกและปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วย

 

ข่าวต่างประเทศ

 

4. จีนไฟเขียว! เปิดเที่ยวบินสินค้าเชื่อมหนานหนิง-กรุงเทพฯ กระตุ้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามแดน (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2565)

สำนักข่าวต่างประเทศ เปิดเผยรายงานว่า เทียนจิน แอร์ คาร์โก สายการบินขนส่งสินค้าในภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยของจีน เปิดบริการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เชื่อมนครหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน และกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินขาออกเที่ยวแรกของบริการข้างต้นเดินทางออกจากนครหนานหนิงสู่กรุงเทพฯ และเดินทางกลับจีนอย่างราบรื่น เมื่อวันอาทิตย์ (8 พฤษภาคม 2565) โดยเส้นทางใหม่นี้นับเป็นเที่ยวบินสินค้าระหว่างประเทศลำดับที่ 7 ที่เปิดบริการในหนานหนิงของสายการบิน

อย่างไรก็ตาม บริการเที่ยวบินสินค้าเส้นทางใหม่จะกระตุ้นธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างกว่างซีและไทย พร้อมกับช่วยผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศและอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนสำรวจตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแบ่งปันโอกาสในการพัฒนา

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)