ข่าวประจำวันที่ 9 เมษายน 2567

ข่าวในประเทศ

A person sitting at a microphone

Description automatically generated

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

1. "พิมพ์ภัทรา-โตโยต้า" อุ้มเอสเอ็มอี (ที่มา: ไทยรัฐ, ประจำวันที่ 9 เมษายน 2567)

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) สู่ชุมชน เพื่อยกระดับการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมแก่ธุรกิจชุมชนครอบคลุมทุกด้าน เพื่อดึงกลไกคาราคูริ ไคเซน (Kara kuri Kaizen) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและลดต้นทุน หวังเพิ่มศักยภาพธุรกิจชุมชน ผ่านแนวคิดชุมชนเปลี่ยนพร้อมชูต้นแบบเครื่องทุ่นแรงให้กลุ่มผู้สูงอายุ โดยล่าสุด ดีพร้อมได้ร่วมมือกับโตโยต้าฯ พัฒนาระบบลำเลียงกล้วย ผ่านการใช้กลไกคาราคูริ ไคเซน (Karakuri Kaizen) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตการลำเลียงและทุ่นแรงขนย้ายกล้วย และได้ร่วมมือกันออกแบบและพัฒนาต้นแบบเครื่องลำเลียงกล้วยหอมทอง ที่ใช้หลักการทำงานของคาราคูริ (Karakuri) ในการลำเลียงกล้วยจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยไม่ต้องใช้แรงในการลากทำให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตกล้วยหอมทอง จากเดิมใช้เวลาการลำเลียงกล้วยหอมทอง 400 เครือต่อ 8 ชั่วโมงมาเป็นลำเลียงได้ 400 เครือต่อ 4 ชั่วโมง แทนรวมถึงสามารถลดเวลาช่วยในการผ่อนแรงสำหรับสมาชิกกลุ่มผู้สูงอายุเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อการส่งออกช่วยให้ลดต้นทุนการผลิตลงได้ 30-50% ต่อเดือน ทั้งนี้ ดีพร้อม ได้วางเป้าหมายขยายผลความร่วมมือในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปยังผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนทั่วประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมายในรูปแบบพี่ช่วยน้อง (Big Brother) เข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทในการเปลี่ยนชุมชนด้วยเครื่องมือ กระบวนการ หรือเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับระดับศักยภาพ        ของชุมชนในแต่ละพื้นที่ ที่เป็นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการประกอบการในทุกๆด้านตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่เกษตรอุตสาหกรรมเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาด และขยายไปสู่ตลาดสากลรวมถึงการสร้างรายได้ให้ชุมชนกระตุ้นเศรษฐกิจก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 40 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ดีพร้อมได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการผู้ประกอบการจังหวัดชุมพรได้รับทราบข้อมูลจากกลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัดผู้ผลิตและส่งออกกล้วยหอมทองปลอดสารพิษไปยังประเทศญี่ปุ่นที่ประสบปัญหาการลำเลียงกล้วย เนื่องจากกลุ่มมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ การลำเลียงกล้วยมีลักษณะที่ใช้เป็นรางลากต้องใช้แรงจำนวนมากในการเคลื่อนย้ายส่งผลให้กระบวนการผลิตเกิดความล่าช้า และไม่เป็นไปตามกำลังการผลิตที่ควรจะเป็นจึงขอรับการสนับสนุนด้านกระบวนการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น รวมถึงระบบการผลิต ลำเลียงคัดแยกกล้วยหอมทอง ควบคู่กับการใช้แรงงานคนอีกด้วย

 

A person in a yellow shirt

Description automatically generated

น.ส.ณัฏฐิญา เนตยสุภา

รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

 

2'อุตฯ' หนุนผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสู่เศรษฐกิจวิถีใหม่ (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 9 เมษายน 2567)

น.ส.ณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้เปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ "โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ จังหวัดภูเก็ต" ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประจำปีงบประมาณ 2566 งบประมาณเบิกแทนกัน จัดโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในภูเก็ตสามารถปรับตัวและขับเคลื่อนธุรกิจให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจวิถีใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การออกแบบผลิตภัณฑ์ การตลาดออนไลน์ และการสร้าง แบรนด์ โดยกระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพและสามารถแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจวิถีใหม่ โดยเฉพาะในภูเก็ต การพัฒนาให้มีทักษะและความรู้ที่ทันสมัยจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งภูเก็ตมีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวและบริการ การส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยว และ มุ่งหวังว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวิถีใหม่ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างรายได้ให้กับชุมชนต่อไป

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ได้มีการหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการที่ได้รับงบประมาณเบิกแทนกัน โดยได้เน้นย้ำและเร่งรัดการใช้ระบบตรวจสอบโรงงานอัจฉริยะ i-Auditor ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงฯ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมอธิบายวิธีใช้งานระบบ i-Auditor แก่เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ i-Auditor เป็นระบบสารสนเทศสำหรับการตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการ พัฒนาโดยสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้การตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบ ลดงานของเจ้าหน้าที่ เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามผลการแก้ไข และเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจแนวทางการใช้ระบบนี้มากขึ้น สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

 

3. ส.อ.ท.ชงถกรัฐรับมือ "ดีเซล" พุ่งด่วน (ที่มา: ไทยรัฐ, ประจำวันที่ 9 เมษายน 2567)

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การปรับขึ้นราคาดีเซลเป็น 30.44 บาทต่อลิตรของรัฐบาลเข้าใจได้ว่ากองทุนน้ำมันจำเป็นจะต้องปรับขึ้นตามตลาดโลกเพื่อรักษาสภาพคล่อง เนื่องจากมีฐานะติดลบเกือบแสนล้านบาท ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รัฐบาลควรจะหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ด้านพลังงานที่จะทำให้มีการแก้ไขอย่างบูรณาการ เพราะมีภาคเอกชนและรัฐ ในการวางแผนระยะสั้นถึงระยะยาว    อย่างเป็นระบบ เพราะขณะนี้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อทำให้สภาพคล่องกองทุนน้ำมันดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกขยับสูง ที่ผ่านมากองทุนน้ำมันใช้เงินจำนวนมากมาพยุงราคา แต่จากนี้ไปก็ควรบอกประชาชนให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเพื่อหาทางออกร่วมกัน สำหรับเวที กรอ.พลังงาน จะเป็นประโยชน์เพราะภาคเอกชนย่อมรู้ถึงผลกระทบว่าราคาน้ำมันดีเซลระดับใดที่จะเหมาะสมที่จะไม่กระทบต่อต้นทุนสินค้าจนเกินไป ซึ่งการขึ้นราคาครั้งนี้ ยังคงไม่มีผลต่อระดับสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต่อไปหากทยอยปรับขึ้นต่อเนื่องก็จะกระทบต่อค่าขนส่งที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อต้นทุนการผลิตและการส่งออก ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้เสนอตลอด แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพลังงาน ว่า ทิศทางราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกยังคงน่ากังวล ท่ามกลางกองทุนน้ำมันก็มีปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากเหลือเงินที่ทยอยเบิกจ่ายในการดูแลเพียง 20,000 ล้านบาท การปรับขึ้นดีเซลเพราะราคาโลกขึ้นสูง หากต้องอุดหนุนเงินที่กู้มาก็จะหมดลงกระทรวงพลังงานจะบริหารราคาโดยขยับราคาครั้งละ 50 สตางค์/ลิตร เพื่อลดผลกระทบ และระหว่างนี้คงต้องรอนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการช่วยเหลือจากรัฐบาล

 

ข่าวต่างประเทศ

A close up of a flag

Description automatically generated

 

4. ซีอีโอเจพีมอร์แกนเตือนดอกเบี้ยสหรัฐอาจแตะ 8% จากแรงกดดันเงินเฟ้อ (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 9 เมษายน 2567)

นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส เปิดเผยว่า แรงกดดันเงินเฟ้อแบบต่อเนื่องจากผลพวงของการขาดดุลงบประมาณและความขัดแย้งทางทหาร รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อาจทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับขึ้นสู่ระดับ 8% หรือมากกว่านั้นในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ในจดหมายประจำปีที่ส่งถึงบรรดาผู้ถือหุ้น นายไดมอนระบุว่า ตลาดสหรัฐดูเหมือนคาดการณ์ว่า                      มีโอกาส 70%-80% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิง

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์มาร์เก็ตวอตช์รายงานว่า นายไดมอนมักมีมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่านักเศรษฐศาสตร์จำนวนมาก โดยนายไดมอนเคยออกมาเตือนในปี 2565 ให้ชาวอเมริกันระวังเฮอร์ริเคนทางเศรษฐกิจเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ปรับตัวขึ้นแล้ว 16% ในปีนี้ เทียบกับการปรับขึ้น 9.1% ของดัชนี S&P500 ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)