ข่าวประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2567

ข่าวในประเทศ

A person sitting at a microphone

Description automatically generated

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

1. อุตเร่งเครื่องหนุนเอสเอ็มอีขายออนไลน์ (ที่มา : ไทยโพสต์, ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2567)

 

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "Live commerce กับ TikToker ของแทร่" Get Started With TikTok จัดโดย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กับ Tik Tok Thailand ว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงอุตสาห กรรม คือ สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด "รื้อ ลด ปลด สร้าง" หมายถึง รื้อ ลด ปลด สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการให้มากที่สุด และสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งการเติมความรู้ด้านทำตลาดที่ทันสมัยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะใช้การไลฟ์ขายสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ของการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็ม อี โดยเฉพาะรายย่อยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ให้สามารถคว้าโอกาส ผลักดันธุรกิจให้เติบโตก้าวกระโดด จากกำลังซื้อมหาศาลของลูกค้าทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ SME D Bank กล่าวว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านกระบวนการด้านการเงิน ควบคู่กับด้านการพัฒนา ซึ่งการจัดงาน 'Live commerce กับ TikToker ของแทร่' สร้างประโยชน์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีศักยภาพสามารถจะขยายช่องทางการขายได้อย่างไร้พรมแดน และมีโอกาสสร้างรายได้มหาศาล ซึ่งปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดออนไลน์กว่า 700,000 ล้านบาท และเติบโตเฉลี่ยปีละ 25% ขณะที่ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และที่ผ่านมา SME D Bank และ TikTok Thailand ได้จับมือจัดกิจกรรมเติมความรู้ การทำตลาดออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาอย่างต่อเนื่อง กระจายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

 

A person in a suit sitting in a chair

Description automatically generated

นายภูมิธรรม เวชยชัย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

2ขยายตลาดข้าวไทยส่งวางขายร้านค้ายูเอ็นออสเตรีย (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2567)

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายให้ทีมพาณิชย์ ในฐานะส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์ ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ช่วยกันทำการสำรวจโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ล่าสุดได้รับรายงานจาก น.ส.อรอนุช ผดุงวิถี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริม การค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ถึงการส่งเสริมและขยายโอกาสให้กับข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ที่เป็นสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จนประสบความสำเร็จเข้าไปจำหน่ายในร้านค้า ของสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่กรุงเวียนนา ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่าการผลักดันการนำข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นสินค้า GI ของไทย ไปวางจำหน่ายในร้านค้าของยูเอ็น ณ กรุงเวียนนา ได้ดำเนินการมาต่อเนื่องกว่า 2 ปี โดยล่าสุดสามารถผลักดันการจับคู่และเจรจา ธุรกิจจนเกิดผลสำเร็จได้รับคำสั่งซื้อจากคณะผู้แทนของยูเอ็น โดยคาดว่าจะมีการวางจำหน่ายสินค้า ได้ตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เป็นต้นไป สำหรับความสำเร็จดังกล่าว เป็นไปตามยุทธศาสตร์เวียนนาโมเดล ที่มุ่งทวงคืนตลาดข้าวไทยและพัฒนาให้เป็นโครงการนำร่องในการส่งเสริมการค้าและการยกระดับภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยในต่างประเทศ เพื่อจำหน่ายในฐานะ สินค้า   พรีเมียมที่อยู่เหนือการแข่งขันทางราคากับสินค้าคู่แข่ง เริ่มจากความสำเร็จจากการส่งออกข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มายังสหภาพยุโรปเป็น ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศออสเตรียเมื่อ ปี 2565 และเมื่อสินค้าลอตแรกมาถึง ผู้นำเข้าได้ทำการสั่งซื้อสินค้าลอตต่อไปในทันที ที่ได้เปิดสัมผัสคุณภาพของสินค้าจริง เนื่องจากมั่นใจในกระแสตอบรับที่จะเกิดขึ้น และปัจจุบันสามารถผลักดันการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยเข้าไปยังตลาดออสเตรียได้ครบทุกช่องทางการตลาด ได้แก่ 1. ร้านอาหาร Thai SELECT 2. ไฮเปอร์มาร์เก็ต 3. ซูเปอร์มาเก็ต 4. Ethic market 5. ออนไลน์ มาร์เก็ต และล่าสุดที่กำลังจะมีการวางจำหน่ายสินค้าที่ 6. ร้านค้า Commissary ในองค์การสหประชาชาติ

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นข่าวดี ที่ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ สามารถเข้าสู่ตลาดออสเตรียได้เพิ่มขึ้น โดยได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีการส่งออกไปยังออสเตรียแล้ว 15 ตู้คอนเทนเนอร์ ไม่รวมข้าวหอมมะลิทั่วไป และมีแนวโน้มขยายตัวได้อีก ถือเป็นความสำเร็จในการทวงคืนตลาดข้าวหอมมะลิไทยจากคู่แข่ง หลังจากที่ตลาดออสเตรียถูกแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด จนปริมาณการนำเข้าข้าวไทยลดลงจนเกือบเหลือศูนย์ในช่วงก่อนหน้า โดยได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และทูตพาณิชย์ออสเตรีย เดินหน้าขยายตลาดข้าวหอมมะลิไทย และ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ของไทยต่อไป และ ทราบว่า น่าจะมีข่าวดี ในการขยายตลาดส่งออก ข้าวหอมมะลิไทยไปยังตลาดใกล้เคียง คือ สโลวีเนียได้ในไตรมาส   ที่ 2 ของปี 2567 นี้ด้วย

 

A person in a pink jacket

Description automatically generated

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์

กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex)

 

3. ยกระดับอุตฯ เครื่องนุ่งห่มเพิ่มโอกาสการค้าผ่านเวที 'GFT 2024' (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2567)

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex) เปิดเผยว่า จากข้อมูลสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2567 มูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยมีมูลค่า 1,529.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 56,000 ล้านบาท โดยมีการขยายตัว เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสามารถในการผลิตสิ่งทอและเครื่องแต่งกายที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ได้อย่างครบวงจร โดยที่ผ่านมาประเทศไทยได้ทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าสำคัญที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย อาทิ อินเดีย จีน และญี่ปุ่น (ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้า) รวมทั้งประเทศไทยได้มีแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมหลายแบรนด์ในตลาดต่างประเทศหลายแห่ง จึงกล่าวได้ว่าประเทศไทยมีโอกาสและแนวโน้มที่จะขยายตลาดเสื้อผ้าและสิ่งทอไปได้อีก โดยการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ และการพัฒนาเส้นใยเพื่อให้ตอบโจทย์การสวมใส่จะเป็น ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีโอกาสขยายตลาด ไปได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาส เสริมจุดแข็ง และส่งเสริมให้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ ทางบริษัทได้จัดงาน จีเอฟที (GFT 2024) ขึ้น ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2567 นี้ ที่ไบเทค บางนา โดยงานจีเอฟที เป็นงานแสดงเครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตเครื่องนุ่งห่มและ สิ่งทอที่ครอบคลุมที่สุดในอาเซียน จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 ในปีนี้ ภายใต้แนวคิด "The Right Match ถักทอธุรกิจกับพันธมิตรที่ใช่" เพื่อส่งมอบโอกาสทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบผ่านเทคโนโลยีและเครื่องจักรทันสมัย จากทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่จักรปัก จักรเย็บ เครื่องพิมพ์ลาย ผ้าคุณสมบัติพิเศษ อุปกรณ์เสริม ซอฟต์แวร์ ระบบอัตโนมัติและ AI ไปจนถึงผู้รับผลิตเสื้อผ้า

อย่างไรก็ตาม งานจีเอฟจะช่วยให้ผู้แสดงสินค้าและซัพพลายเออร์สามารถสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ รวมทั้งเป็นการพบปะว่าที่ลูกค้ากลุ่มใหม่ หรืออาจเป็นการพบปะซัพพลายเออร์ด้วยกันเอง ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือเพื่อพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นและเจาะตลาดได้กว้างขวางขึ้น นอกจากนี้ จีเอฟที ยังมีผู้ร่วมงาน จากหลากหลายเชื้อชาติ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส อิตาลี อเมริกา ที่จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงาน ทั้ง ผู้ผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมมานาน ดีไซเนอร์หรือเจ้าของแบรนด์รุ่นใหม่จะได้พบกับเทคโนโลยี โซลูชั่นหรือซัพพลายเออร์ที่จะช่วยทำให้ความฝันเป็นจริงได้ง่ายขึ้น                    โดยจะมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผู้แสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศจำนวนรวมกว่า 200 ราย คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานนี้กว่า 10,000 ราย

 

ข่าวต่างประเทศ

A red circle on a white cloth

Description automatically generated

 

4. ญี่ปุ่นปรับเพิ่มการประเมิน GDP Q1 เป็นหดตัวเพียง 1.8% จากเดิมหดตัว 2% (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2567)

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้มีการปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2567 โดยระบุว่า GDP ไตรมาส 1 หดตัวลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าการประเมินเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP หดตัวลง 2% ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขการใช้จ่ายประเภททุน (capital expenditure) ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนอุปสงค์ในภาคเอกชน โดยระบุว่าการใช้จ่ายประเภททุนในไตรมาส 1 ลดลงเพียง 0.4% ซึ่งดีกว่าการประเมินเบื้องต้นที่ระบุว่าลดลง 0.8% โดยการปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขการใช้จ่ายประเภททุนถือเป็นปัจจัยสำคัญของการปรับเพิ่มการประเมินตัวเลข GDP ในไตรมาส 1 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 หดตัวลง ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการบริโภคในภาคเอกชนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้น ลดลง 0.7% ในไตรมาส 1 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประเมินเบื้องต้น เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินของภาคครัวเรือน

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)