ข่าวในประเทศ
นายภาสกร ชัยรัตน์
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม
1. ดีพร้อมหนุนซอฟต์พาวเวอร์แฟชั่นไทย ก้าวไกลสู่ระดับโลก (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2567)
นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้เกิดมูลค่าและรายได้เพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เกิดการปรับเพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างความแตกต่าง สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต และเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้กับสินค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ที่ได้รับแรงกดดันสูงจากกลุ่มประเทศตลาดใหม่ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย ในการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในบริบทต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจและพร้อมรับกับอนาคต กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) จึงได้ดำเนินการตามนโยบาย RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคตผ่านกลยุทธ์ การปรับตัวให้ก้าวทันอุตสาหกรรมยุคใหม่ (RESHAPE THE INDUSTRY) โดยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า รวมทั้งนำจุดเด่นของไทยประสานกับความคิดสร้างสรรค์ สร้างความแตกต่างให้กับสินค้าไทยให้มีความโดดเด่น ในตลาดโลก และเพิ่มมาตรฐานของสินค้าในทุกๆ ด้านทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรม (Thailand Textiles Tag) ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยการบูรณาการกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อเร่งยกระดับ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทย ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อาทิ ผู้ผลิต เส้นด้าย ผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป เคหะสิ่งทอ และสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีสิ่งทอเป็นองค์ประกอบ ด้วยการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานพร้อมการขอรับรองภายใต้ตราสัญลักษณ์คุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทยที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อผ้าความคงทนของสี และความปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้และกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในปีปัจจุบันมีผู้ประกอบการสนใจยื่นขอการรับรองเครื่องหมาย Thailand Textiles Tag และพัฒนาผลิตภัณฑ์จนได้การรับรองตาม หลักเกณฑ์ รวมทั้งสิ้น 22 กิจการ 34 ผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองในปีนี้ มีหลากหลายประเภท อาทิ ผ้าผืนสำหรับนำไปพิมพ์และตัดเย็บเป็นกางเกงช้างและกางเกงประจำจังหวัดต่างๆ ผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือ เสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งบุรุษและสตรี รวมทั้ง ชุดเครื่องนอนและเสื้อผ้ากีฬาที่ได้รับการพัฒนาโครงสร้างเนื้อผ้าให้สัมผัสแล้วรู้สึกเย็นสบาย เป็นต้น ทั้งนี้ ดีพร้อม เชื่อมั่นว่าการดำเนินกิจกรรมนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มให้มีคุณภาพสูง และได้มาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในตลาดโลก รวมทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดซอฟต์พาวเวอร์แฟชั่นไทยสู่ระดับสากล
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)
2. จี้ทูตพาณิชย์ส่งซอฟต์พาวเวอร์ไปจีน (ที่มา: ไทยรัฐ, ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2567)
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ทั้งในจีนและฮ่องกง 8 แห่ง ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยตามนโยบายรัฐบาล และนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมอบหมายให้ปูพรมจัดกิจกรรมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ผ่านกลยุทธ์ 5 F ได้แก่ Food (อาหาร), Fruits (ผลไม้), Fashion (แฟชั่น), Film (ภาพยนตร์) และ Fairs (งานแสดงสินค้า) ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 เพื่อผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นซึ่งจะมีผลต่อการขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าและบริการ ทั้งนี้ สำหรับในส่วนของอาหารไทยและตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ที่มอบให้กับร้านอาหารไทยนั้น ได้มอบหมายให้จัดเทศกาลส่งเสริมอาหารไทยใน ฮ่องกง หนานหนิง เซี่ยเหมิน เซี่ยงไฮ้ ชิงต่าว และคุนหมิง ส่วนผลไม้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมผลไม้ไทย Thai Fruits Golden Months แล้ว 4 เมืองหลัก ได้แก่ คุนหมิง ฉงชิ่ง เจียงซี และกวางโจว ขณะที่สินค้าแฟชั่นล่าสุด กรมเตรียมประชาสัมพันธ์งาน Bangkok Gemsand Jewelry Fair ครั้งที่ 70 ในเดือนกันยายน 2567 ที่เฉิงตูและจัดกิจกรรม Galanight เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แฟชั่นและเครื่องประดับไทยณนครเซี่ยงไฮ้ ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 รวมทั้งจัด Thailand Pavilion และ Thai Fashion Show ในงาน CENTRESTAGE ที่ฮ่องกงวันที่ 4-7 กันยายน 2567
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพยนตร์ได้เข้าร่วมงาน Hongkong International Film Festival เมื่อเดือนมีนาคม 2567 และได้จับคู่ธุรกิจทั้งที่ฮ่องกงและนครเซี่ยงไฮ้ภายในงาน Shanghai International Film Festival และงานแสดงสินค้าในไตรมาส 4 ปีนี้ กรมได้คัดเลือกและจะนำผู้ประกอบการไทยไปเจรจาการค้าในจีน 4 ครั้ง
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
3. "บีโอไอ" คุยลั่นทุ่งดึงซาอุดีอาระเบียลงทุน (ที่มา: ไทยรัฐ, ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2567)
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการจัดคณะหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทยเดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมเปิดสำนักงานบีโอไอณกรุงริยาดประเทศซาอุดีอาระเบียว่าการจัดงานประชุมภาคธุรกิจ "Thai-Saudi Investment Forum" และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประสบความสำเร็จอย่างดีได้รับความสนใจจากนักธุรกิจไทยและซาอุดีอาระเบีย รวมถึงนักธุรกิจจากประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง เข้าร่วมงาน 300 คน จาก 200 บริษัท เกิดการเจรจาธุรกิจ 100 คู่ ภายในงานยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือทางธุรกิจ 11 ฉบับในหลากหลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมการเกษตร อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ สำหรับบริษัทเอกชนของไทยที่เข้าร่วมกิจกรรม Investment Forum และการเจรจาธุรกิจถือเป็นบริษัทชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ อาทิ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อุตสาหกรรมพลังงาน อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อาทิ กลุ่มซีพี, บริษัท เบทาโกร จำกัด และพบว่านักลงทุนซาอุดีอาระเบียหลายรายให้ความสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปสุขภาพและการแพทย์ พลังงานสะอาด ชิ้นส่วนยานยนต์ และธุรกิจบริการ
อย่างไรก็ตาม บีโอไอได้เข้าพบกับบริษัทชั้นนำของซาอุดีอาระเบียเพื่อหารือแผนการลงทุนในไทยและการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น บริษัท Saudi Agricultural and Livestock Investment Company (SALIC) ผู้นำด้านการเกษตรและปศุสัตว์ ได้หารือแผนการลงทุนในไทยในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น การเกษตร ปศุสัตว์การประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บริษัท CEER Motors ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกองทุน Public Investment Fund (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย Foxconn จากไต้หวันและ BMW จากเยอรมนีโดยฝ่ายไทยได้เชิญชวนให้บริษัทพิจารณาการลงทุนในประเทศไทย
ข่าวต่างประเทศ
4. อินโดนีเซียส่งออกเดือนมิ.ย.เพิ่ม 1.17% เทียบรายปี ต่ำกว่าคาด (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2567)
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 1.17% ในเดือนมิถุนายน 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 2.084 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 5.46% ทั้งนี้ ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มูลค่าการส่งออกของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค่อยๆ ปรับตัวลดลงนับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในช่วงที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกเฟื่องฟูในปี 2565 เนื่องจากราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซียระบุว่า ราคาพลังงาน ผลผลิตทางการเกษตร และโลหะทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นแล้ว แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์เหมืองแร่ที่ลดลง 16% ในเดือนมิถุนายน 2567 ส่งผลให้การเติบโตของยอดส่งออกโดยรวมชะลอลง ซึ่งรวมถึงยอดส่งออกถ่านหินและเหล็กกล้าที่ลดลงเช่นกัน
หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)