ข่าวประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567

ข่าวในประเทศ

A person smiling at a microphone

Description automatically generated

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

1. 'เอกนัฏ' เร่งแก้ปัญหาผังเมือง เปิดพื้นที่เพิ่ม 'นิคมฯ' อีอีซี (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567)

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า EEC มีเม็ดเงินมหาศาลจากภาครัฐและเอกชนที่ลงไปเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าแหลมฉบัง ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ถนนมอเตอร์เวย์ และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่เดินหน้าต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาให้พื้นที่ 3 จังหวัด ใน EEC ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เป็นพื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ และขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งความต้องการพื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมใน EEC ที่เพิ่มขึ้นทำให้ปัจจุบันพบข้อจำกัดของการจัดทำพื้นที่เพื่อประกอบการอุตสาหกรรมที่เหลือน้อยลงและทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น รวมทั้งตามแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินและแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ผัง EEC) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2562 ซึ่งมีการแบ่งกลุ่มพื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรม (สีม่วง) อยู่ที่ 424,854 ไร่คิดเป็นพื้นที่ 5.12% ของพื้นที่ทั้งหมด 8.29 ล้านไร่ ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง ในการเปิดพื้นที่ "สีเหลือง" ตามแผนผัง EEC ซึ่งเป็นที่ดินประเภทชุมชนชนบท โดยเป็นพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจชุมชนรวมพื้นที่ 2.07 ล้านไร่ ในการแบ่งบางส่วนมากำหนดลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่ที่สามารถใช้เพื่อการตั้งนิคมอุตสาหกรรมได้ โดยในเบื้องต้นได้สั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พิจารณาประเด็นผังเมือง ระบุเขตที่ดินที่สามารถกำหนดเป็นพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมได้ ภายใต้กฎหมายของ กนอ.ซึ่งเป็นพื้นที่สีเหลืองตามแผนผัง EEC จากนั้นจะนำแผนผังดังกล่าวหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับตั้งนิคมอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มพื้นที่อุตสาหกรรมจะเป็นข้อต่อรองที่รัฐบาลเสนอให้กับเอกชนผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม แลกกับการเปิดพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมให้ผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะ เพื่อเตรียมพร้อมในการรับช่วงการผลิตของบริษัทขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตไทยได้ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันและพร้อมเชื่อมโยงเข้าสู่ซัพพลายเชนระดับโลก สำหรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาลงทุนในไทยต้องการ Local Content หรือชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ ซึ่งการเปิดพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมให้สำหรับส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลางโดยเฉพาะก็เพื่อให้กลุ่มที่มีศักยภาพพร้อมจะขายของให้กับบริษัทขนาดใหญ่ ได้มีพื้นที่ตรงนี้ในการเช่าใช้ในราคาถูก รวมทั้งได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ การกำหนดพื้นที่ ที่ส่งเสริมชัดเจนในเขตนิคมอุตสาหกรรมจะทำให้สามารถกำกับ และควบคุมดูแลโรงงานอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น ช่วยลดปัญหาโรงงานอุตสาหกรรมที่แทรกซึมอยู่ใกล้ที่อยู่อาศัย ซึ่งบริหารจัดการได้ยาก

 

A person in a suit and tie

Description automatically generated

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 

2. รัฐ-เอกชนต้องร่วมมือเปลี่ยนการใช้พลังงานเดินหน้าสู่ Net Zero (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567)

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "การปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับแผนพลังงานใหม่เพื่อมุ่งสู่ Carbon Neutrality" ในการจัดสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symposium 2024 โดยสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ปัจจุบันทุกภาคส่วนต้องมีการปรับตัว ซึ่งไม่ใช่แค่ภาค อุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัวเท่านั้น ภาครัฐเองก็ต้องปรับเช่นกัน โดยการปรับตัวไม่ได้แค่ให้สอดคล้องกับแผนพลังงานใหม่เท่านั้น แต่ต้องปรับให้เข้ากับเทรนด์โลกด้วย คือ การลดคาร์บอนที่เกิดจากภาคพลังงาน เพื่อนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนปี 2050 และ Net Zero ปี 2065 ซึ่งภาคอุตสาหกรรมยังต้องใช้พลังงานฟอสซิล เพราะฉะนั้นในแผนพลังงานใหม่จึงวางไว้ให้การผลิตไฟฟ้าที่มาจากเชื้อเพลิงพลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งไทยเน้นที่พลังงานจากแสงแดด แผน PDP ใหม่จึงต้องเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น ทั้งนี้ การปรับตัวดังกล่าวทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีต้นทุนที่ต้องจ่าย นับว่าเป็นสิ่งท้าทายสำหรับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในความเป็นจริงต้นทุนการผลิตเชื้อเพลิงนั้นถูก แต่ระบบการผลิตแพง และมีกฎระเบียบเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดความยุ่งยากเป็นอุปสรรค กระทรวงพลังงานจึงกำลังศึกษาและร่างกฎหมาย เพื่อทำอย่างไรให้เอกชนหรือภาคอุตสาหกรรมสามารถติดตั้งระบบไฟฟ้าได้เองง่าย เน้นให้สามารถผลิตในประเทศทำให้ต้นทุนต่ำเพื่อลดต้นทุนให้กับทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรมด้วย โดยภาคอุตสาหกรรมอาจจะค่อนข้างเหนื่อย เพราะต้องเผชิญอุปสรรคทางการค้า หากสินค้าไม่ได้ผลิตจากพลังงานสะอาดก็จะถูกข้อกีดกันจากประเทศผู้นำเข้า

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจ ภาวะโลกร้อนที่ก้าวเข้าสู่ภาวะโลกเดือด และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานโลก และนับเป็นความท้าทายของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพลังงานถือเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินงานและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น ภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ SMEs จำเป็นต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายอย่างเร่งด่วน รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) จะมีส่วนช่วยอุตสาหกรรมก้าวสู่การแข่งขันอย่างยั่งยืนในอนาคตได้

 

A person in a suit and tie

Description automatically generated

นายพิชัย นริพทะพันธุ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

3. 'พิชัย' หารือทูตสหรัฐ กระชับสัมพันธ์การค้าและลงทุน (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567)

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ กระทรวงพาณิชย์ ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกัน หลังจากที่ได้เข้ารับตำแหน่ง โดยตนได้เน้นย้ำว่าไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมให้ความร่วมมือกับสถานทูตสหรัฐฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน พร้อมกันนี้ ยังได้แจ้งให้ทางสหรัฐฯ ทราบว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เสริมสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการค้า และการลงทุน และพร้อมให้การต้อนรับการมาเยือนของคณะนักธุรกิจ USABC (U.S.-ASEAN Business Council - USABC) ในเดือนพฤศจิกายน 2567 และยังพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ทั้งนี้ ได้ขอบคุณบริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบริษัท Google และ Amazon ที่ได้ยืนยันแผนการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค พร้อมทั้งได้เชิญชวนบริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อื่นๆ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันทราบว่า บริษัท HP ของสหรัฐฯ ก็อยู่ระหว่างการเข้ามาลงทุนในไทย โดยสหรัฐฯ ได้แจ้งว่าพร้อมสนับสนุนภาคเอกชนของสหรัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ ไทยยังมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร (Food Security Hub) โดยเป็นคลังสินค้าและส่งออกอาหารให้กับทุกประเทศที่ต้องการ ขณะเดียวกันได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ อีกทั้งได้แสดงความยินดีต่อการสรุปผลแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) ที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL)

 

ข่าวต่างประเทศ

A red and white flag with white stars

Description automatically generated

 

4. สิงคโปร์ส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก.ย. (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567)

องค์การวิสาหกิจของสิงคโปร์ (Enterprise Singapore) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมัน (NODX) ของสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนกันยายน 2567 เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ขยายตัวขึ้น 10.7% ในเดือนสิงหาคม โดยในรายงานระบุว่า ยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าที่ไม่ใช่อิเล็กทรอนิกส์ยังคงขยายตัว แต่ยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวลดลงเหลือ 4.0% ในเดือนกันยายน ชะลอตัวลงจาก 35.1% ในเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า NODX ของสิงคโปร์ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนที่แล้ว โดยประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่มีส่วนในการขยายตัวดังกล่าวมากที่สุด ทั้งนี้ ยอดการค้าโดยรวมของสิงคโปร์ขยายตัวขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนกันยายน หลังขยายตัวขึ้น 3.0% ในเดือนสิงหาคม

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)