ข่าวประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2567

ข่าวในประเทศ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

1. "เอกนัฏ" สั่งปิดยาวรง.เหล็กไฟไหม้ ส่อถูกยึดใบอนุญาต หากผลิตไม่ได้มาตรฐานสมอ. (ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2567)

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงานบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล ที่ตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง จากการรั่วไหลของถังก๊าซ LPG ขนาด 110,000 ลิตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวน  5 คน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ว่า ได้ส่งชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าบริษัทฯมีการเคลื่อนย้ายถังก๊าซ LPG โดยไม่แจ้งขออนุญาตจากสำนักงานพลังงานจังหวัดระยอง ซึ่งในส่วนนี้สำนักงานพลังงานจังหวัดระยองได้สั่งระงับไม่ให้ใช้งานภายในบริเวณถังก๊าซที่เกิดเหตุ สั่งห้ามนำถังก๊าซที่เกิดเหตุกลับมาใช้ใหม่และต้องแก้ไขพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุให้กลับอยู่สภาพเดิมตามที่เคยขออนุญาตไว้ โดยต้องมีวิศวกรควบคุม พร้อมปรับเงินจำนวน 5 หมื่นบาท โดยในส่วนของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้สั่งให้ผู้ประกอบการต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในทั้งหมด ตรวจสอบสภาพถังก๊าซให้เป็นไปตามมาตราฐานทั้งโรงงาน ตรวจสอบสภาพอาคารภายในโรงงานทั้งหมดว่าแข็งแรงปลอดภัยหรือไม่ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมจังหวัดระยองได้สั่งให้ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด หยุดประกอบกิจการเป็นระยะเวลา 30 วัน และต้องแก้ไขตามข้อสั่งการ รวมถึงแก้ไขสิ่งแวดล้อมภายในโรงงานทั้งหมด โดยต้องมีวิศวกรเฉพาะด้านรับรอง และแจ้งให้อุตสาหกรรมจังหวัดระยองร่วมตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยก่อนจึงจะพิจารณาอนุญาตให้ประกอบกิจการอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ร่วมตรวจสอบสายการผลิตและผลิตภัณฑ์เหล็กของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ด้วย พบว่าผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ สมอ. โดยมีการซื้อวัตถุดิบจากผู้ขายที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอยู่ในระบบทะเบียนของบริษัท ไม่กำหนดเกณฑ์ตัดสินความสามารถของผู้ขายวัตถุดิบ กำหนดเกณฑ์การตัดสินทางเคมีไม่สอดคล้องกับมาตราฐานที่ มอก. กำหนด สมอ.จึงสั่งให้แก้ไขปรับปรุงภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งกลับมาจะถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการ พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เหล็กไปตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์หรือไม่ด้วย คาดว่าจะได้ผลในสัปดาห์หน้า และหากพบว่าไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐานก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

2. "พิชัย" ประสานจีนรับซื้อมันสำปะหลัง (ที่มา: ไทยรัฐ, ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2567)

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อแก้ปัญหาราคามันสำปะหลัง ตนจึงได้สั่งการไปยังกรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่มันหลายมาตรการ ทั้งยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน พร้อมขอให้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเพิ่มจำนวนรับซื้อมันเส้น และสั่งการทูตพาณิชย์ให้หาตลาดล่วงหน้าเน้นเปิดตลาดใหม่ให้แก่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขณะเดียวกันสัปดาห์หน้าช่วงก่อนปีใหม่กรมการค้าภายในเตรียมของบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสำหรับโครงการชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังปี 2567/68 เพื่อให้เกษตรกรชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังไปก่อน ในช่วงที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาดมาก สนับสนุนให้ใช้สินเชื่อจาก ธ.ก.ส.และรัฐบาลจะรับภาระดอกเบี้ยให้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งได้เตรียมหารือร่วมกับสมาคมมันสำปะหลังทั้ง 4 สมาคม กลุ่มผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงสุกร เพื่อให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์หรือผู้เลี้ยงปศุสัตว์ช่วยดูดซับปริมาณมันสำปะหลังในประเทศผลักดันการใช้มันเส้นในประเทศในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ปริมาณไม่น้อยกว่า 500,000 ตัน ซึ่งมากกว่าปริมาณการใช้ในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในส่วนของกรมการค้าต่างประเทศได้เร่งเดินหน้าขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังไปต่างประเทศ โดยมีการหารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องซึ่งเมื่อวันที่ 4 และ 17 ธันวาคมที่ผ่านมาได้หาแนวทางการจัดกิจกรรมขยายตลาดร่วมกัน พร้อมกำหนดตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพในการนำเข้ามันสำปะหลังเพิ่มเติม อาทิ เม็กซิโก ชิลี ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รวมทั้งให้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มการส่งออกสินค้า

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีแผนงานจัดกิจกรรมขยายตลาดมันสำปะหลังร่วมกับภาคเอกชนเช่นที่จีนระหว่างวันที่ 5-9 มกราคม 2568 จะนำคณะเดินทางทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนไปจัดกิจกรรมขยายตลาดผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยในอุตสาหกรรมขั้นปลายที่มีศักยภาพต่างๆที่หลากหลาย ณ นครเซี่ยงไฮ้ และนครเฉิงตูคาดว่าจะสามารถสร้างความต้องการล่วงหน้าในตลาดก่อนเทศกาลตรุษจีนให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยได้กว่า 1 ล้านตัน และเร่งผลักดันผลผลิตมันสำปะหลังสู่ตลาดจีน

 

A person in a suit and tie

Description automatically generated

นายยุทธศักดิ์ สุภสร

ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

 

3. กนอ.ดึงเกาหลีปักหมุดไทย ลงทุนขยายธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรม (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2567) 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกับนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล พร้อมด้วยคณะนักลงทุนเกาหลีใต้กว่า 20 ราย กนอ. โดยได้เน้นย้ำถึงแคมเปญ "Now Thailand -The Golden Era" เพื่อสื่อสารให้นักลงทุนเกาหลีใต้รับรู้ว่า "นี่คือยุคทอง โอกาสทองของการลงทุนในประเทศไทย ไม่มีเวลาใดที่ดีไปกว่านี้แล้ว" สร้างความเชื่อมั่นและพร้อมให้การสนับสนุนนักลงทุนเกาหลีใต้ในการประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมของไทย สำหรับการเยือนประเทศไทยของคณะนักลงทุนเกาหลีใต้ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน โดยมุ่งเน้นให้เกิดการลงทุนจริงในประเทศไทย โดยในการประชุมหารือ นักลงทุนเกาหลีใต้ได้แสดงความสนใจในหลากหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ได้แสดงความชื่นชมต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนของ กนอ. และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าในประเทศไทย โดยต้องการให้ กนอ. ช่วยประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อทราบกระบวนการและ แนวทางการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งธุรกิจผลิตรถบรรทุก EV มีความสนใจใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกในอาเซียน และปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลการลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจเหล็ก พลังงาน และอื่นๆ โดยบริษัทที่มีฐานการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง มีแผนการขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการถ่ายโอนธุรกิจด้านพลังงานและอื่นๆ ในปี 2567 และการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม Smart Park ที่มีการคาดการณ์มูลค่าการลงทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีนักลงทุนสัญชาติเกาหลีร่วมดำเนินการในธุรกิจต่างๆ เช่น พลังงาน และธุรกิจการแพทย์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า การเยือนของคณะนักลงทุนเกาหลีใต้ครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญต่อการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับภูมิภาค รวมทั้งตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค โดย กนอ.พร้อมให้บริการและมีส่วนร่วมสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับนักลงทุนด้วยบริการที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการให้ข้อมูลเชิงลึก การให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและภาษี การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ และอำนวยความสะดวกในการจัดตั้งธุรกิจ เพื่อให้นักลงทุนดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ รวมถึงการให้คำปรึกษา สนับสนุนด้านต่างๆ และอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ

 

ข่าวต่างประเทศ 

A flag with a red cross with Great Britain in the background

Description automatically generated

 

4. ยอดผลิตรถยนต์ UK เดือนพ.ย. ร่วงแตะโลว์ในรอบ 44 ปี (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2567)

ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ (SMMT) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ในสหราชอาณาจักร (UK) ทรุดตัวลงอย่างหนักในเดือนพฤศจิกายน 2567 ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2523 ขณะที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์พลังงานสะอาดและต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น โดยโรงงานผลิตรถยนต์ใน UK ผลิตรถยนต์ได้เพียง 64,216 คัน ในเดือนพฤศจิกายน ลดลงถึง 30.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้วเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายโรงงาน โดยภาคการผลิตกำลังเผชิญกับแรงกดดันทั้งในประเทศและต่างประเทศ และต้องทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลหลายพันล้านปอนด์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ รถยนต์รุ่นใหม่ๆ และเครื่องมือการผลิตใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังมุ่งหน้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า แต่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฮบริดกลับร่วงลง 45.5% แตะ 19,165 คัน ในเดือนพฤศจิกายน คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1 ใน 3 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)