ข่าวประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568

ข่าวในประเทศ

A person holding a microphone

AI-generated content may be incorrect.

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

1. 'เอกนัฏ' ถก 'ซีเมนส์' เดินหน้าความร่วมมือด้านเทคโนโลยี-นวัตกรรม (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568)

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้การต้อนรับ ดร.โรลันด์ บุช ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเมนส์ เอจี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารที่มาข้าพบ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ซึ่งการหารือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล โดยอาศัยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของซีเมนส์ เช่น ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพการผลิตในภาคอุตสาหกรรมไทย รวมถึงการส่งเสริมการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065 โดยใช้ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะและนวัตกรรมสีเขียวที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งนี้ ยังมีการหารือเรื่องการพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรม โดยความร่วมมือกับสถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) เพื่อจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมในด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัลในการผลิต รวมถึงความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะภายในเขตอุตสาหกรรมและโครงการเมืองอัจฉริยะ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านนโยบายและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายชัดเจนในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ทันสมัย แข่งขันได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซีเมนส์ถือเป็นพันธมิตรสำคัญที่มีองค์ความรู้ เทคโนโลยี และเครือข่ายระดับโลก ซึ่งสามารถเสริมศักยภาพการผลิตของไทยให้เทียบชั้นระดับสากลได้ โดยเฉพาะในยุคที่อุตสาหกรรมต้องผสานทั้งความยั่งยืนและดิจิทัลไปพร้อมกัน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและแรงงานทักษะสูง ถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืนความร่วมมือกับซีเมนส์ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีผ่านหลักสูตรอบรม จะช่วยยกระดับทักษะให้แรงงานไทยพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี และสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมใหม่ที่เชื่อมโยงนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และคน ได้อย่างเป็นระบบ

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมยังมุ่งส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ "Green & Safe Industry" ด้วยแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีสะอาด และการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตบนรากฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

A person in a suit speaking into a microphone

AI-generated content may be incorrect.

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์

อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.)

 

2. กพร.เทรนช่างยานยนต์ไฟฟ้า-เทคโนโลยีอุตสาหกรรม เปิด 4 คอร์สอบรม (ที่มา: มติชน, ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568)

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ มีความต้องการแรงงานเข้ามาทำงานในโรงงานเปิดใหม่ในหลายสาขากว่า 5,000 คน ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดย กพร.ซึ่งมีหน่วยฝึกอบรมเฉพาะทางด้านดังกล่าว จึงได้มุ่งเป้าจัดฝึกอบรมให้ความรู้ เพื่อยกระดับทักษะแรงงานด้านเทคโนโลยีชั้นสูง รองรับการขยายตัวการลงทุนในอุตสาหกรรมด้านยานยนต์อย่างเต็มรูปแบบ โดยในปี 2568 กพร. มีเป้าหมายฝึกอบรมให้แก่แรงงานด้านยานยนต์ จำนวน 3,000 คน ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 3,001 คน และปี 2569 ตั้งเป้าฝึก 15,000 คน โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ (AHRDA) จังหวัดสมุทรปราการ จะเปิดฝึกอบรมฟรี ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 ทั้งหมด 4 หลักสูตร ระยะเวลาการฝึก 30 ชั่วโมง ประกอบด้วย 1. ช่างซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า อบรมวันที่ 7-10 กรกฎาคม 2568 เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นและโครงสร้างระบบยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี และมอเตอร์ในยานยนต์ไฟฟ้า การใช้เครื่องมือวัดทางไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนและส่งกำลังระบบไฟฟ้า โปรแกรมและซอฟต์แวร์ในการควบคุมยานยนต์ไฟฟ้า การวิเคราะห์และแก้ปัญหาอาการเสียเบื้องต้นของยานยนต์ไฟฟ้า การฝึกปฏิบัติและเทคนิคการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า 2. SOLIDWORKS Advance Part อบรมวันที่ 17-18 และวันที่ 24-25 กรกฎาคม เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการออกแบบและการจัดการ Part ชิ้นงานหลายชั้น การออกแบบชิ้นงาน 3 มิติ ด้วยคำสั่ง Sweeping และ Curve Feature เทคนิคการสร้างชิ้นงานที่ซับซ้อน ด้วยคำสั่ง Loft และ Boundary Features เทคนิคการใช้คำสั่ง Filleting และการจัดการ Boundary Features 3. การควบคุมเซอร์โวมอเตอร์ในงานอุตสาหกรรม อบรมวันที่ 8-9 และ วันที่ 15-16 กรกฎาคม หัวข้อ โครงสร้างและหลักการทำงาน Servo Motor การต่อสายสัญญาณควบคุมการทำงาน การเขียนโปรแกรมควบคุม การแสดงผลการทำงาน และสาเหตุการบกพร่องของอุปกรณ์การซ่อมบำรุงรักษา 4. การพัฒนาบุคลากรหน้างานด้วยรูปแบบ Trio-O (OJT - OJC - OJD) สำหรับผู้ที่ทำงาน HRD และระดับหัวหน้างานขึ้นไป อบรมวันที่ 22-23 และ วันที่ 31 กรกฎาคม - วันที่ 1 สิงหาคม เช่นหัวข้อ การพัฒนาบุคลากรและการเป็นหัวหน้างานที่ดี ความท้าทายในการพัฒนาคนในปัจจุบันและอนาคต ขั้นตอนการทำ OJD ร่วมกับการสนับสนุนงานที่ท้าทาย เป็นต้น คุณสมบัติ สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่า มีประสบการณ์การทำงาน หรือประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคม ยังมีแผนเปิดฝึกอบรมอีกหลายหลักสูตรด้วยกัน สามารถติดตามดูข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน www.dsd.go.th หัวข้อกำหนดการฝึกอบรม หรือสอบถาม สถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ (AHRDA)

 

A person in a suit and tie sitting at a desk

AI-generated content may be incorrect.

นายดนุชา พิชยนันท์

เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์

 

3. สภาพัฒน์ เล็งปรับ GDP ใหม่ หวังทรัมป์ลดภาษีสินค้าไทย ให้สมมติฐานที่ 18% (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568)

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยถึงประเด็นการเจรจามาตรการภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หลังจากล่าสุดการเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป ว่า แม้ตอนนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดการเจรจา แต่เชื่อว่านายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตลอดจนทีมไทยแลนด์ จะมีการเตรียมข้อเสนอเพิ่มเติมที่จะส่งไปให้สหรัฐฯ ไว้แล้ว เพราะต้องรีบส่งไปเจรจาให้ทันก่อนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นี้ ส่วนการพิจารณาทบทวนตัวเลข GDP ของไทยนั้น นายดนุชา กล่าวว่า GDP ปีนี้ที่สภาพัฒน์ประเมินไว้ล่าสุด อยู่ที่ 1.3-2.3% นั้น เป็นการประเมินจากอัตราภาษีที่สหรัฐฯ ประกาศไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่าจะเรียกเก็บจากแต่ละประเทศคู่ค้าในอัตราเท่าใด ซึ่งในส่วนของไทยถูกคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 36% แต่ล่าสุด ประเทศเวียดนามบรรลุข้อตกลงเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ สำเร็จแล้วที่อัตรา 20% ในขณะที่ไทยยังไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราเท่าใด ดังนั้นอาจจะมีการพิจารณาทบทวน GDP สำหรับปีนี้ใหม่อีกครั้ง หลังทราบอัตราภาษีที่ชัดเจนที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากไทย

อย่างไรก็ตาม หากสุดท้ายแล้วอัตราภาษีของสินค้าไทยถูกเรียกเก็บสูงกว่าเวียดนาม ก็ยังไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะนำมาประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เพราะต้องประเมินอัตราภาษีประเทศคู่แข่งอื่นของไทยควบคู่กันไปด้วย ว่าถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บในอัตราใด เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เป็นต้น ซึ่งตอนนี้เรารู้ว่าประเทศเวียดนามได้ 20% แต่ในการประเมิน GDP สมมติฐานในการคำนวณมีความหลากหลายมาก ก็ต้องดูประเทศอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น มาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย สำหรับสภาพัฒน์ มองสมมติฐานว่าไทยจะโดนเก็บภาษีที่อัตรา 18% (จาก 36%)

 

ข่าวต่างประเทศ

A oil pump and a drop of oil

AI-generated content may be incorrect.

 

4. โอเปกพลัสมีมติเพิ่มการผลิตน้ำมันสูงถึง 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568)

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เปิดเผยว่า ได้มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนสิงหาคม 2568 หลังจากสมาชิกทั้ง 8 ประเทศของโอเปกพลัสซึ่งได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต คาซัคสถาน แอลจีเรีย และโอมาน ได้ทำการทบทวนภาวะตลาดและแนวโน้มทั่วโลก ในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนสิงหาคม อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ไว้ และถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน และกรกฎาคม ซึ่งโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มในอัตราเท่ากันที่ระดับ 411,000 บาร์เรล/วัน

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของกลุ่มโอเปกพลัสระบุว่า "การตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนสิงหาคมนั้น พิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและปัจจัยพื้นฐานของตลาดที่ยังคงแข็งแกร่งในปัจจุบัน ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากสต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ สำหรับทิศทางในอนาคตนั้น การเพิ่มกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปอาจจะยุติลงหรืออาจจะดำเนินการในทางตรงกันข้าม โดยจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)