ข่าวประจำวันที่ 10 กันยายน 2568

ข่าวในประเทศ

A person in a suit

AI-generated content may be incorrect.

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์

ปลัดกระทรวงพาณิชย์

 

1. "พาณิชย์" เปิดงาน "บางกอกเจมส์" คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้าน (ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, ประจำวันที่ 10 เมษายน 2568)

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับครั้งที่ 72 (The 72nd Bangkok Gems and Jewelry Fair) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT และสนับสนุนโดยองค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงสมาคมการค้าสำคัญในอุตสาหกรรม 17 องค์กร ว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมทั้งในและต่างประเทศ รวม 1,106 บริษัท 2,628 คูหา จัดแสดงเต็มพื้นที่ชั้น G และ LG Hall 1-8 คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 40,000 คน และจะมีเงินสะพัดกว่า 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้ สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย เป็นอุตสาหกรรมที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ มีการจ้างงานตลอดห่วงโซ่อุปทานถึงกว่า 8 แสนคนทั่วประเทศ และในช่วงที่ผ่านมา ทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เป็นที่น่ายินดีว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ช่วง 7 เดือน ปี 2568 (มกราคม - กรกฎาคม) มีมูลค่า 8,186.28 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 60.50% คิดเป็นสัดส่วน 4.73% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด สำหรับงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair เติบโตมากว่า 4 ทศวรรษ และครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 72 ระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน 2568 ถือเป็นหนึ่งในแผนงานสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ที่ใช้ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย โดยงานนี้ ยังได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อทั่วโลกว่าเป็น 1 ใน 4 งานแสดงสินค้าจิวเวลรีสำคัญของโลก และเป็นงานที่เป็นจุดหมายของผู้ซื้อและผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมจากนานาประเทศต้องมา ถือเป็นบทพิสูจน์ความเชื่อมั่นที่ผู้ซื้อทั่วโลกมีต่ออุตสาหกรรมจิวเวลรีไทยได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ความสำคัญของงาน Bangkok Gems นอกจากจะเป็นแหล่งรวมแบรนด์จิวเวลรีจากผู้ผลิตและส่งออกชั้นนำของไทยแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมผู้รับจ้างออกแบบและผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ทั่วโลก และเนื่องจากกว่า 50% ของ Exhibitor ที่เข้าร่วมงาน เป็นกลุ่มสินค้าพลอยสี Bangkok Gems จึงถือเป็นแหล่งรวมผู้ค้าพลอยสีที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

 

A person in a suit

AI-generated content may be incorrect.

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

 

2. บาทแข็งค่ารุนแรง เอกชนหวั่นส่งออกแข่งยาก (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 10 กันยายน 2568)

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องจนแตะระดับ 31.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการแข็งค่าที่รวดเร็วและรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี และสวนทางกับทิศทางเศรษฐกิจจริงของประเทศ โดยการแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทที่จะมีต่อภาคการส่งออก ต้องเผชิญการแข่งขันที่ยากลำบาก เนื่องจากราคาสินค้าไทยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง ส่งผลต่อยอดขายและรายได้จากต่างประเทศ ส่วนภาคการท่องเที่ยวนั้น ความแข็งค่าของเงินบาททำให้ประเทศไทยมีต้นทุนการท่องเที่ยวสูงขึ้นในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดแรงจูงใจในการเดินทางมาไทย ในขณะที่ภาคเกษตรกรรม เกษตรกรไทยที่พึ่งพาการส่งออกได้รับผลกระทบหนักจากต้นทุนและรายได้ที่ไม่สอดคล้องกับค่าเงิน โดยเฉพาะข้าวนาปี และพืชไร่ที่กำลังจะออกมา สำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งรุนแรงกว่าประเทศอื่นนั้น ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากปัจจัยในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลจาก 1. เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระยะต่อไป ทำให้ค่าเงินของหลายประเทศในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นโดยอัตโนมัติ 2. ปัจจัยด้านทองคำ ประเทศไทยมีการถือครองทองคำจำนวนมาก และราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการขายทองคำออกมาเป็นเงินตราต่างประเทศ และแปลงกลับเป็นเงินบาท ส่งผลให้มีความต้องการเงินบาทเพิ่มขึ้น ทำให้เงินบาทแข็งค่ามากกว่าประเทศคู่ค้าอย่างผิดปกติ รวมถึงมี fund flow ที่เข้ามาประเทศด้วย ซึ่งอาจจะมาจากพวก Crypto ด้วย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากภายนอกที่เข้ามาซ้ำเติมความเปราะบาง ได้แก่ มาตรการภาษีตอบโต้(tariff) ที่หลายประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป กำลังทบทวนหรือกำลังมีการพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลกระทบความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและยิ่งซ้ำเติมผลกระทบจากเงินบาทแข็ง และข้อจำกัดด้านการแทรกแซงค่าเงิน การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปดูแลค่าเงินบาทอย่างเข้มข้นอาจทำให้ไทยถูกเพ่งเล็งว่า "บิดเบือนค่าเงิน" โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับการเจรจาภาษีการค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินอยู่ จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องวางนโยบายอย่างรอบคอบ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหอการค้าไทยและคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) เคยเสนอแนวทางว่า ควรแยกดุลทองคำออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถประเมินผลกระทบต่อค่าเงินได้ตรงจุด พร้อมทั้งเสนอให้ ธปท. เข้ามาจัดการดูแลในส่วนนี้อย่างเป็นระบบ เพราะหากปล่อยให้กลไกค่าเงินผันผวนโดยไม่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทย จะทำให้ผู้ประกอบการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับประเทศคู่ค้า ทั้งนี้หากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ แม้ภาครัฐจะใช้เงินทุนสำรองเข้ามาแทรกแซงเพื่อรักษาอัตราแลกเปลี่ยน ก็อาจต้องใช้เงินจำนวนมากและเสี่ยงต่อการสูญเปล่าโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ดังนั้นหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและธปท.เร่งพิจารณามาตรการที่เหมาะสมอย่างเร่งด่วน เพื่อดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจจริง และไม่บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย

 

A person sitting at a table

AI-generated content may be incorrect.

ดร.เพิก เลิศวังพง

รักษาการแทนผู้ว่า ยางแห่งประเทศไทย (กยท.)

 

3. ขยายตลาดเมล็ดยางพาราไทยสู่ญี่ปุ่น (ที่มา: เดลินิวส์, ประจำวันที่ 10 กันยายน 2568)

ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยถึง การร่วมลงนามในหนังสือ แสดงเจตจำนงความร่วมมือ (Letter of Intent: LoI) กับ บริษัท Nomura Jimusho, Inc. โดยมี Mr. Shoji Nomura ประธานบริษัทฯ ว่า เป็น ผู้ร่วมลงนามเดินหน้าสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจแก่เกษตรกรไทย พร้อมร่วมผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกันระหว่างสองประเทศ โดยมุ่งหมายสู่การจัดทำสัญญาซื้อขายเมล็ดยางพาราในอนาคต โดยเบื้องต้นกำหนดปริมาณซื้อขายประมาณ 300,000 ตันต่อปี หรือมากกว่า ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันกำหนดคุณสมบัติและมาตรฐานของเมล็ดยางพารา เจรจาราคาที่เป็นธรรมตามเกณฑ์สากล รวมถึงวางแผนการส่งมอบและรูปแบบการชำระเงินที่เหมาะสม ซึ่งตั้งเป้าซื้อขายอย่างเป็นทางการภายในปี 2568 โดยความร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับยางพาราไทย แต่ยังเป็นการร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนสังคมสีเขียว และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การลงนามครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ กยท. ในการขยายตลาดเมล็ดยางพาราไทยสู่ประเทศญี่ปุ่นและเป็นการวางรากฐานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างภาครัฐไทยและภาคเอกชนญี่ปุ่นที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมยางพาราไทยในเวทีโลกต่อไป

 

ข่าวต่างประเทศ

A flag with a red circle and black lines

AI-generated content may be incorrect.

 

4. เกาหลีใต้ฝึกทักษะ AI ให้ จนท. กระทรวงการคลัง หวังปั้น "นักรบ AI" ช่วยขับเคลื่อนศก. (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 10 กันยายน 2568)

กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ได้มีการประกาศเปิดตัวโครงการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ในวันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาลในการก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจด้าน AI ระดับโลก โดยรายงานระบุว่า โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการฝึกอบรม 3 เดือน ดำเนินการภายใต้การดูแลของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง แห่งเกาหลี (KAIST) โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรที่ทางกระทรวงฯ เรียกว่า "นักรบ AI แห่งกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง" ที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุค AI อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการปฏิบัติจริง โดยผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะต้องทำโปรเจกต์ร่วมกัน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการกำหนดนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีของรัฐบาลประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ซึ่งมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้อย่างครอบคลุมทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมขั้นสูง หรือที่เรียกว่า "super-innovation economy"

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน คู ยุน-ชอล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เน้นย้ำว่า ปัจจุบัน ทักษะด้าน AI ถือเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ขับเคลื่อน super-innovation economy

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)