ข่าวประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568

ข่าวในประเทศ

A person with her arms crossed

AI-generated content may be incorrect.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

 

1. พาณิชย์แปลง "ปัญญา" เป็นทุน (ที่มา: ไทยรัฐ, ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568)

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมเดินหน้าผลักดันโครงการ "IP Financing" หรือการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาและเปลี่ยนเป็นทุน เพื่อให้นักธุรกิจ ภาคเอกชน รวมถึงเอสเอ็มอี สามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหลักประกันในการระดมทุน หรือขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจและสร้างแรงจูงใจในการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต และนำพาประเทศก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ทั้งนี้ ในเร็วๆ นี้ กรมเตรียมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีต่างๆ เช่น ตลาดทุนสถาบันการเงิน สมาคมประเมินมูลค่าทรัพย์สิน รวมทั้งนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นจากกรณีศึกษาและประสบการณ์ตลอดจนความสำเร็จของประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ จีน และเกาหลีใต้ เพื่อวางรากฐานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาไทย และการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้เป็นทุนหรือหลักประกันทางธุรกิจได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาที่ทำให้การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้าลิขสิทธิ์ เป็นต้น ยังไม่แพร่หลายหรือได้รับการยอมรับเท่าที่ควรเพราะยังขาดความเชี่ยวชาญและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา และขาดตลาดกลางในการซื้อ-ขายทรัพย์สินทางปัญญาในวงกว้าง ซึ่งในเร็วๆ นี้ กรม จะร่วมกับพันธมิตรจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยที่มีทรัพย์สินทางปัญญาแต่ยังไม่มีเงินทุนได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ

 

A person in a suit and tie

AI-generated content may be incorrect.

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์

ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.)

 

2. ก่อสร้างภาครัฐเร่งตัวดันราคาวัสดุก่อสร้างพุ่งต่อเนื่อง 16 เดือน (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568)

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนกันยายน 2568 เท่ากับ 113.6 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2567 (YoY) สูงขึ้น 0.4% ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือนติดต่อกัน โดยหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้น 1.0% จากการสูงขึ้นของไม้แบบ วงกบหน้าต่าง และบานหน้าต่าง จากความต้องการใช้ไม้แปรรูปขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้ง ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หมวดซีเมนต์ สูงขึ้น 5.4% จากการสูงขึ้นของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนซีเมนต์ผสม และปูนฉาบสำเร็จ เนื่องจากมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและโครงการ ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ส่งผล ต่อเนื่องให้หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้น 1.2% จากการสูงขึ้นของเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง คานคอนกรีตสำเร็จรูป และท่อระบายน้ำคอนกรีต เนื่องจากการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ปูนซีเมนต์ ทราย) ขณะที่หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลง 0.9% จากการลดลงของเหล็กตัวซี เหล็กตัว H ท่อเหล็กกลวงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และท่อเหล็กดำ จากค่าเงินบาทที่แข็งส่งผลให้ราคาวัตถุดิบลดลง (บิลเล็ต เศษเหล็ก เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแผ่นรีดเย็น) หมวดกระเบื้อง ลดลง 1.0% จากการลดลงของกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น กระเบื้องเคลือบบุผนัง และกระเบื้องเคลือบปูพื้น เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ หมวดวัสดุฉาบผิว สูงขึ้น 0.6% จากการสูงขึ้นของสีน้ำอะคริลิคทาภายนอก สีทาถนนชนิดสะท้อนแสง และสีเคลือบน้ำมัน เนื่องจากมีความต้องการใช้ในการปรับปรุงและตกแต่งอาคารเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี และใช้ในโครงการก่อสร้างและการซ่อมแซมด้านคมนาคมของภาครัฐหลังเกิดภัยพิบัติในหลายพื้นที่ ส่วนหมวดสุขภัณฑ์ ลดลง 4.0% จากการลดลงของโถส้วมชักโครก อ่างล้างหน้าเซรามิก ฝักบัวอาบน้ำ และราวจับสเตนเลส เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้น 1.6% จากการสูงขึ้นของสายส่งกำลังไฟฟ้า NYY สายไฟฟ้า VCT สายไฟฟ้า VAF และสายเคเบิล THW ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ทองแดง) และมีความต้องการใช้ในการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคของ ภาครัฐเพิ่มขึ้น หมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ลดลง 2.5% จากการลดลงของยางมะตอย ตามการลดลงของราคาวัตถุดิบ (ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี) และอะลูมิเนียม แผ่นเรียบ ต้นทุนวัตถุดิบ (อลูมิเนียม) ปรับราคาลดลงจากค่าเงินบาทแข็ง

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนตุลาคม ปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยมาจากความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างในโครงการก่อสร้างพื้นฐานและโครงการต่อเนื่องของภาครัฐที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างในการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังเกิดภัยพิบัติและการขยายตัวของตลาดบ้านมือสอง การปรับปรุงและตกแต่งอาคารเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

 

A person in a suit and tie

AI-generated content may be incorrect.

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา

รองประธานกรรมการหอการค้าไทย

 

3. ‘หอการค้า’ ชี้เสี่ยงเงินฝืดทางเทคนิค ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568)

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของไทยที่ลดต่ำลง 6 เดือน แม้จะส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ทางเชิงเทคนิค ยังไม่ถือเป็นภาวะเงินฝืด โดยข้อเท็จริง คือ ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ประหยัดได้ก็ประหยัด จึงทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับการออกโครงการคนละครึ่งพลัสมาใช้ ซึ่งจะเป็นวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีและเร็วในสถานการณ์แบบนี้ หากปล่อยไหลแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ไม่ดีแน่นอนยิ่งผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่าย ทางผู้ผลิตก็ไม่กล้าผลิตซัพพลายเชนก็มีปัญหาห่วงโซ่ต่อเนื่องก็จะเข้าสู่ภาวะต่างฝ่ายต่างถอยไม่ใช่ถอยคนละก้าวแต่ถอยไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ ภาคเอกชนหวังมาตรการระยะสั้นที่ออกมาจะช่วยบรรเทาได้แต่ในระยะกลางจะต้องมีวิธีที่ทำให้ภาคธุรกิจเดินต่อได้ไม่ว่าจะเป็นภาคส่งออกที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย รวมทั้งผู้ประกอบการคงจะต้องปรับตัวให้ได้ตามสถานการณ์เพื่อให้ผ่านวิกฤติตรงนี้ไปได้ก่อนโดยเฉพาะการส่งออกในตลาดสหรัฐที่เป็นตลาดใหญ่ของไทยซึ่งผู้ประกอบการที่ส่งอีกไปคลาดเดียวจะต้องรีบกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่นๆ โดยต้องหากิจกรรมเข้ากลุ่มลูกค้าอื่น ซึ่งขณะนี้ความชัดเจนว่าสินค้าที่เข้าสหรัฐจะลดน้อยลง อย่างน้อย 3 เดือนหรืออาจถึง 6 เดือน แม้ว่าครึ่งปีแรกจะส่งออกไปสหรัฐมากขึ้น ดังนั้นช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ต่อจะถึงไตรมาสแรกปีหน้าจะต้องหาตลาดทดแทนควบคู่ไปกับการระมัดระวังทำสต๊อกสินค้าจะต้องระมัดระวังเพราะตลาดถืออยู่ในช่วงขาลงในหลายหลายตลาด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า เงินเฟ้อในช่วงต่อไปน่าจะปรับลดลงและมีการปรับคาดการณ์เงินซื้อเงินเฟ้อทั้งปี 0% บ่งชี้ว่ากำลังซื้อกำลังหายไป ภาคการผลิคก็ผลิตสินค้าเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดทุน ขณะที่ผู้บริโภคก็ไม่กล้าจะจ่ายใช้สอยมัน ภาวะแบบนี้ ถือเป็นสัญญาณที่น่ากลัวถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากรัฐ   จะมีมาตรการอะไรต่างๆ มาเสริมเป็นระยะๆ ก็น่าจะเป็นตัวช่วยได้

 

ข่าวต่างประเทศ

A logo of a company

AI-generated content may be incorrect.

 

4. WTO ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการค้าโลก +2.4% ในปี 68 (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568)

องค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยว่า ได้มีการประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของการค้าโลกในปีนี้ แต่เตือนว่าภาพรวมแนวโน้มของปีหน้าได้ย่ำแย่ลง โดยในรายงานคาดว่าปริมาณการค้าโลกจะมีการขยายตัว 2.4% ในปี 2568 จากเดิมคาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.9% ในรายงานประจำเดือนสิงหาคม สำหรับแนวโน้มของปีถัดไปไม่สดใสนัก โดย WTO ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของปริมาณการค้าในปี 2569 เหลือเพียง 0.5% จากเดิมที่ระดับ 1.8% โดยการขยายตัวของการค้าคาดว่าจะปรับตัวลงในปี 2569 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งผลกระทบจากภาษีศุลกากรที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ภาษีการค้ากลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการค้าทั่วโลก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศใช้นโยบายภาษีศุลกากรในวงกว้างเมื่อเดือนเมษายน

อย่างไรก็ตาม สำหรับการส่งออกภาคบริการทั่วโลกคาดว่าจะชะลอตัวจาก 6.8% ในปี 2567 เหลือ 4.6% ในปี 2568 และ 4.4% ในปี 2569 แม้ภาคบริการไม่ถูกเก็บภาษีโดยตรง แต่ก็อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการค้าสินค้าและการผลิต ซึ่ง WTO ระบุว่าได้เริ่มเห็นสัญญาณของความอ่อนแอในภาคการค้าและการผลิตของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น การลดลงของความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภค รวมถึงการเติบโตของการจ้างงานและราย

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)