ข่าวในประเทศ
นายธนกร วังบุญคงชนะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
1. ก.อุตฯ ปิด 2 โรงงานที่ระยอง พบกากปนเปื้อน 1 แสนตัน (ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, ประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568)
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทีมชุดปฏิบัติการเต็มเหนี่ยวกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพลอยลภัสร์ สิงโตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายวีระ นันทเศรษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัท ทีอาร์รับเบอร์ ระยอง (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ใน ตำบลพนานิคม อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง และบริษัท จิน ไท้หลง รับเบอร์ จำกัด ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ 7 ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชน เรื่องมลพิษ สิ่งแวดล้อม กากอุตสาหกรรม และประเด็นน้ำเสีย ทำให้ชุมชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจากฐานข้อมูลโรงงานฯ บริษัท ทีอาร์รับเบอร์ ระยอง (ไทยแลนด์) จำกัด ได้แจ้งประกอบกิจการ คัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ที่ไม่เป็นของเสียอันตราย สกัดโลหะจากกากตะกอนทองแดง (Copper Slag) ทำอิฐบล็อก และอิฐตัวหนอน ส่วน บริษัท จิน ไท้หลง รับเบอร์ จำกัด ประกอบกิจการนำเข้า ส่งออก รับซื้อ ขายส่ง รีไซเคิล ผลิต ยางพารา และเศษยางพาราทุกชนิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของชุดเต็มเหนี่ยว พบว่า บริษัท ทีอาร์รับเบอร์ ระยอง (ไทยแลนด์) จำกัด เข้าข่ายตั้งและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากพบมีการติดตั้งเครื่องจักร ลักลอบประกอบกิจการโรงงานบำบัดกากของเสียและวัสดุไม่ใช้แล้ว มีการเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมออกไปนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกัน ยังตรวจพบกากอุตสาหกรรม ชนิดผงกากตะกอน และคาดว่ายังไม่ได้ผ่านกระบวนการกำจัดตามกฎหมาย โดยมีน้ำหนักกว่า 100,000 ตัน ถูกลักลอบทิ้งและฝังกลบภายในโรงงานและที่ดินข้างเคียงโรงงาน อีกประมาณ 46 ไร่ ดังนั้น เจ้าพนักงานฯ จึงเก็บตัวอย่างดิน กากตะกอน และน้ำ ในบริเวณโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียง ไปทำการตรวจสอบ สิ่งที่น่ากังวลคือ หากเกิดฝนตกอาจทำให้สารอันตรายแพร่กระจายลงพื้นดินและแหล่งน้ำ จนส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ หากการตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายจะสั่งดำเนิน คดีอย่างเด็ดขาด รวมถึงยังได้สั่งการให้ บริษัท ทีอาร์รับเบอร์ ระยอง (ไทยแลนด์) จำกัด เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดด้วย ซึ่งหากพบว่า บริษัทฯ ยังคงเพิกเฉย ไม่ยินยอมแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยองได้สั่งให้หยุดประกอบการ พร้อมทั้งดำเนินคดีกับโรงงานดังกล่าว ซึ่งการตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณี บริษัท จิน ไท้หลง รับเบอร์ จำกัด นั้น เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า มีการประกอบกิจการ และขอใบอนุญาตประกอบกิจการผิดประเภท ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดฐานตั้งและประกอบโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังตรวจพบ กองยางรถยนต์ใช้แล้วและผงยางที่บดย่อยแล้ว อยู่ภายนอกอาคารโรงงาน รวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกิจการจำนวนหนึ่ง
จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
2. ยศสิงห์ ผนึก เดลต้า เปิดตัว ‘DIPROM–DELTA Angel Fund’ ปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดจริง ‘คนไทยไม่แพ้ใครในโลก’ (ที่มา: The Standard, ประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568)
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม: DIPROM) จับมือ บริษัท เดลต้า อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการ ‘DIPROM – DELTA Angel Fund’ เดินหน้าหนุนสตาร์ทอัพไทยจากไอเดียสู่นวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ผ่านการเข้าถึงแหล่งทุน การพิสูจน์ในตลาดจริง และการเชื่อมโยงเครือข่ายนักลงทุน สำหรับการแถลงข่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมี จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, ณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ วิคเตอร์ เจิ้ง ซีอีโอเดลต้า อิเล็กทรอนิกส์ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ทั้งนี้ จ่าเอก ยศสิงห์ กล่าวภายในงานว่า สิ่งที่ประเทศไทยไม่เคยขาดคือศักยภาพของคน แต่ที่ขาดคือระบบสนับสนุนที่มั่นคง วันนี้เราทำให้โครงสร้างนั้นเกิดขึ้นจริง รัฐ – เอกชนต้องเดินไปด้วยกัน เพื่อพิสูจน์ว่าสตาร์ทอัพไทยไม่แพ้ใครในโลก ปีนี้นับเป็นปีที่ 10 ของโครงการ ซึ่งต่อยอดผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทยด้วย 3 กลยุทธ์หลัก 1.ขยายตลาดผ่านคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เชื่อมเทคโนโลยีกับการสื่อสาร 2.พิสูจน์นวัตกรรมในสนามจริง (Proof of Concept) ผ่านเครือข่ายตลาดรัฐ – เอกชน และ3.เชื่อมโยงสู่แหล่งทุนและนักลงทุนระดับประเทศ
อย่างไรก็ดี ในปี 2568 มีผู้เข้าร่วมกว่า 50 ทีม ครอบคลุม 12 สาขาอุตสาหกรรมอนาคต เช่น หุ่นยนต์ ดิจิทัล เกษตรสมัยใหม่ เทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์ครบวงจร โดย เดลต้า มอบทุนสนับสนุน 31 รางวัล รวมมูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและทดลองใช้จริงในตลาด ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้ผลักดันสตาร์ทอัพไทยแล้วกว่า 237 ราย ด้วยมูลค่ารวมกว่า 38 ล้านบาท สะท้อนพลังของความร่วมมือรัฐ – เอกชนที่สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม วิคเตอร์ เจิ้ง ซีอีโอเดลต้า กล่าวปิดท้ายว่า“เดลต้าพร้อมแบ่งปันองค์ความรู้ เครือข่าย และโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพไทยยกระดับผลิตภัณฑ์และเข้าถึงนักลงทุนได้รวดเร็วขึ้น”
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์
3. ธุรกิจเกมมาแรงโอกาสผลักดัน Soft Power ไทย (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568)
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยล่าสุด ได้รับรายงานจากนายนิติ ประทุมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงการเติบโตของธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์รูปแบบใหม่ที่กำลังมาแรงในจีน คือ ภาพยนตร์ บวกกับเกม ซึ่งเป็นการนำภาพยนตร์ที่มีการฉายจริงแล้วมาทำเป็นเกมให้ผู้เล่นได้เข้าไปสวมบทเป็นตัวละครเพื่อเล่นเกม ซึ่งทูตพาณิชย์ได้รายงานว่าล่าสุด จีนมีการเปิดตัวเกมอินเตอร์แอ๊กทีฟ ฮ่องเต้หญิงฟ้าลิขิต หรือ Road to Empress ซึ่งเป็นเกมที่นำภาพยนตร์มาทำ และเปิดตัวสู่ตลาดจีนเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ทำยอดขายทะลุ 1 ล้านชุด ภายใน 12 วัน ด้วยการชำระเงินครั้งเดียว 39 หยวน โดยสร้างรายได้เกือบ 40 ล้านหยวน และยังเปิดตัวในตลาดฮ่องกง มาเก๊า และต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ แคนาดา ญี่ปุ่น และไทย โดยติด 10 อันดับแอปสโตร์ในประเทศดังกล่าวและได้รับการยกย่องว่าเป็นเกมละครคุณภาพสมบูรณ์แบบ เนื้อเรื่องน่าติดตาม ทั้งนี้ เกมดังกล่าวเป็นความสำเร็จทางการตลาดรูปแบบละคร+เกม โดยเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายทั้งกระแสโซเชียลที่สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ จากยอดวิว รายได้จากยอดขายและค่าลิขสิทธิ์ การกระตุ้นยอดขายจริงบนอี-คอมเมิร์ซ มีการลงทุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และเกมเพิ่มขึ้น แหล่ง ถ่ายทำ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นดึงดูดการท่องเที่ยวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับเกมฮ่องเต้หญิงฟ้าลิขิต เป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์รูปแบบใหม่ของตลาดจีน ซึ่งกำลังกลายเป็นกระแสที่มาแรงในโซเชียลมีเดียและได้ดึงดูดผู้ชมเป็นจำนวนมากทั้งในจีนและประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหญิง รวมถึงยังได้เผยแพร่วัฒนธรรมจีนอย่างแพร่หลาย โดยกรมเห็นว่ารูปแบบธุรกิจดังกล่าวมีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย เพราะมีความโดดเด่นทั้งในการผลิตละคร ภาพยนตร์ และเกม สามารถที่จะนำมาต่อยอดได้ และจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดัน Soft Power ของไทยทั้งวัฒนธรรม อาหาร แหล่งท่องเที่ยว
ข่าวต่างประเทศ
4. ไต้หวันเล็งเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็นมากกว่า 5% หลังเศรษฐกิจ Q3 โตเกินคาด (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568)
สำนักงานงบประมาณ การบัญชี และสถิติของไต้หวัน เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3 ของไต้หวันขยายตัว 7.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.0% แต่ยังต่ำกว่าอัตราการเติบโต 8.01% ในไตรมาส 2 เล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า การเติบโตในไตรมาสนี้ยอดเยี่ยมมาก โดยได้แรงหนุนจากความต้องการ AI ที่แข็งแกร่ง ทำให้การลงทุนในอุตสาหกรรมคลาวด์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออก AI เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และชดเชยผลกระทบจากการส่งออกของอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่อ่อนแอ ทั้งนี้ เนื่องจากผลของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกินคาดนี้ สำนักงานงบประมาณ การบัญชี และสถิติของไต้หวันคาดว่าจะสามารถปรับคาดการณ์การเติบโตของทั้งปี 2568 เป็นมากกว่า 5% จากเดิมที่ 4.45% โดยคาดว่าจะประกาศการคาดการณ์สุดท้ายอย่างเป็นทางการในปลายเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญของไต้หวันยังได้รับการยกเว้นภาษี 20% สำหรับการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ไต้หวันอยู่ระหว่างการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอลดอัตราภาษีลงอีก
หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)