ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน 2567

ข่าวในประเทศ

A person sitting at a microphone

Description automatically generated

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

1. 'พิมพ์ภัทรา' อัพสกิลชุมชนดีพร้อม เชื่อมโยงท่องเที่ยวสายมูปั้นรายได้ (ที่มา: มติชน, ประจำวันที่ 11 เมษายน 2567)

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายเศรษฐาได้ลงพื้นที่และมอบนโยบายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการยกระดับต้นทุนเดิมไปสู่ศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อให้เศรษฐกิจในพื้นที่มีความเข้มแข็งและประชาชนมีรายได้อย่างยั่งยืนได้นั้น จึงจำเป็นต้องกระจายโอกาสและสร้างรายได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการเชื่อมโยงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ในพื้นที่ ล่าสุดจึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เร่งยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเข้มแข็งชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบผ่านโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ เปลี่ยนชุมชน ให้ดีพร้อมสู่อุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ด้วยการถอดบทเรียนความสำเร็จในการพัฒนาชุมชนจากผู้ประกอบการและเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้เข้ารับบริการของกระทรวงอุตสาหกรรมมาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบอกเล่าประสบการณ์ในการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ ไปปรับใช้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจทั่วไปได้นำไปปรับใช้กับธุรกิจและเชื่อมโยงไปสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชุมชนสายมูได้อย่างดี โดยมีประชาชนจากชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 2,000 คน

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ นายเศรษฐายังเตรียมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการยกระดับศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการสนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราชสู่สนามบินนานาชาติ รวมถึงผลักดันการขยายถนน 4 ช่องจราจร ได้แก่ สายคลองเหลง-ขนอม และขนอม-ดอนสัก

 

A person in a yellow shirt

Description automatically generated

น.ส.ณัฏฐิญา เนตยสุภา

รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

 

2. 'อุตฯ' หนุนผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสู่เศรษฐกิจวิถีใหม่ (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 9 เมษายน 2567)

น.ส.ณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้เปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ "โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ จังหวัดภูเก็ต" ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประจำปีงบประมาณ 2566 งบประมาณเบิกแทนกัน จัดโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในภูเก็ตสามารถปรับตัวและขับเคลื่อนธุรกิจให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจวิถีใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การออกแบบผลิตภัณฑ์ การตลาดออนไลน์ และการสร้างแบรนด์ โดยกระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพและสามารถแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจวิถีใหม่ โดยเฉพาะในภูเก็ต การพัฒนาให้มีทักษะและความรู้ที่ทันสมัยจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งภูเก็ตมีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวและบริการ การส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยว และ มุ่งหวังว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวิถีใหม่ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างรายได้ให้กับชุมชนต่อไป

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ได้มีการหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการที่ได้รับงบประมาณเบิกแทนกัน โดยได้เน้นย้ำและเร่งรัดการใช้ระบบตรวจสอบโรงงานอัจฉริยะ i-Auditor ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงฯ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมอธิบายวิธีใช้งานระบบ i-Auditor แก่เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ i-Auditor เป็นระบบสารสนเทศสำหรับการตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการ พัฒนาโดยสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้การตรวจกำกับดูแลสถานประกอบการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบ ลดงานของเจ้าหน้าที่ เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามผลการแก้ไข และเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจแนวทางการใช้ระบบนี้มากขึ้น สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

A person in a suit with his arms crossed

Description automatically generated

นายวีริศ อัมระปาล

ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

 

3. สั่งกนอ.คุมเข้มรับปีใหม่ไทย (ที่มา: เดลินิวส์, ประจำวันที่ 10 เมษายน 2567)

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้ง กนอ. กำชับโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งดูแลปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรการป้องกันอัคคีภัยและอุบัติเหตุอย่างเคร่งครัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูร้อน สภาพอากาศแห้งแล้งและมีอุณหภูมิสูง ส่งผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักรของโรงงานต้องทำงานหนักขึ้น อาจก่อให้เกิดอัคคีภัยอุบัติเหตุได้ หากไม่มีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ตามแผน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นมีจำนวนน้อยกว่าวันทำงานปกติ หากเกิดอุบัติเหตุจะก่อให้เกิดความเสียหาย และอันตรายแก่ชีวิต ทรัพย์สินของโรงงาน สภาพแวดล้อมภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรืออุตสาหกรรม อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบได้ ทั้งนี้ กนอ. ได้กำชับไปยังผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่ง ท่าเรืออุตสาหกรรม ให้ดำเนินการแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่ง ต้องระมัดระวังเหตุอัคคีภัย และอุบัติเหตุจากการประกอบกิจการในช่วงวันหยุดยาวตามมาตรการของกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ระมัดระวังการปฏิบัติงานโดยเฉพาะโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยสูง อาทิ โรงงานแป้งมัน โรงงานสิ่งทอ ปั่นด้าย ทอผ้า โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า โรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ โรงงานผลิตกระดาษ โรงงานประกอบกิจการสี ทินเนอร์ โรงงานทำพลุและดอกไม้เพลิง กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดทำคำแนะนำและเผยแพร่ข้อปฏิบัติฯ คู่มือด้านความปลอดภัยต่างๆ

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันอัคคีภัยและอุบัติเหตุจากการประกอบกิจการ เช่น การตรวจสอบ บำรุงรักษา หรือสับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักรตามระยะเวลาที่กำหนด การให้ความรู้ ด้านมาตรการป้องกันอัคคีภัย และอุบัติเหตุแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ และกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรง ให้ปฏิบัติตามแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินที่ได้มีการฝึกซ้อม รวมทั้งสื่อสารไปยังหน่วยระงับเหตุและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ข่าวต่างประเทศ

A flag with a red blue and black circle

Description automatically generated

 

4. ยอดส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่ม 21.6% ในช่วง 10 วันแรกของเดือนเม.ย. (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 11 เมษายน 2567)

สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักในช่วง 10 วันแรกของเดือนเมษายน 2567 เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์และรถยนต์ที่ผลิตในเกาหลีใต้เป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยในรายงานระบุว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้อยู่ที่ 1.644 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 วันแรกของเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 21.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 45.5% แตะที่ 2.57 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น 8.6% สู่ระดับ 1.64 พันล้านดอลลาร์ สำหรับยอดส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมัน เหล็ก ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ เครื่องจักรที่มีความแม่นยำ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และคอมพิวเตอร์ ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักในช่วง 10 วันแรกของเดือนเมษายน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 1.843 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 10 วันแรกของเดือนเมษายน ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดขาดดุลการค้า 1.99 พันล้านดอลลาร์

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)