ข่าวประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2567

ข่าวในประเทศ

A person in a pink dress

Description automatically generated

นางวรวรรณ ชิตอรุณ

ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)

 

1. ผลผลิตอุตฯ ร่วงหนักผวาราคาดีเซลดันต้นทุนพุ่งอีก (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2567)

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มีนาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 104.06 หดตัว 5.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 62.39% ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาสแรกของปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 100.85 หดตัวเฉลี่ย 3.65% และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 60.45% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการผลิตยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 8 จากการหดตัวของการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับการส่งออกลดลงเกิดจากความต้องการสินค้าในประเทศคู่ค้าในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย) ปรับตัวลดลง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังมีการขยายตัว ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายตัว เช่น อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการกลั่นปิโตรเลียม รวมถึงการเร่งใช้งบประมาณปี 2567 ของรัฐบาล คาดว่าจะส่งผลบวกให้ดัชนี MPI หลังจากนี้ ปรับตัวดีขึ้น สำหรับ ระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนมีนาคม 2567 ส่งสัญญาณเฝ้าระวังจากปัจจัยภายในประเทศหลังปริมาณการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบลดลง ส่งสัญญาณดีขึ้นเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตามองขณะนี้ คือ การปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ราคาทะลุมาอยู่ที่ 30.94 บาทต่อลิตร ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนการใช้น้ำมันดีเซลค่อนข้างสูง และอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นดีเซล คือ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า มีสัดส่วนใช้ดีเซล 7.93% ของต้นทุนการผลิตรวม การฟอกและ ย้อมผ้า 6.31% เคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน 4.82% ปูนซีเมนต์ 4.43% ผลิตภัณฑ์โลหะ 4.01% แก้วและผลิตภัณฑ์แก้ว 2.74% และเสื้อผ้าและสิ่งทอ 2.53% นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น อาจทำให้ราคาสินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้นกระทบค่าครองชีพของประชาชน และเกิดภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากภาวะราคาสินค้าโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงทำให้อัตราค่าไฟฟ้ามีราคาสูงขึ้นแม้จะมีการตรึงไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย แต่ถ้าใช้มากก็มีผลต่อค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และท้ายสุดจะกระทบกับขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ

 

A person in a suit with his arms crossed

Description automatically generated

นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรม

2กนอ. MOU ร่วมไชน่า แมนเนจเม้นท์ฯ ดึงลงทุนจีนลงนิคมฯ สร้างศักยภาพศก. (ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, ประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2567)

นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ได้รับมอบหมายจาก น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ (MOU) การศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กับ ไชน่า แมเนจเม้นท์ เซ็นจูรี่ กรุ๊ป (China Management Century Group) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำ จากมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยไทยและจีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดยาวนานในมิติทางเศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะภายใต้กรอบ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (BRI) ซึ่งนำไปสู่ความร่วมมือทวิภาคีด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้า การลงทุน และการพัฒนากลไกความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สำหรับขอบเขตความร่วมมือ ดังนี้ 1.ทั้งสองฝ่ายให้ความร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ สนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมระหว่างกันในพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าเหมาะสม 2. ให้ความร่วมมือในการดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ 3. ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุน กฎหมาย ข้อบังคับ นโยบาย และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในประเทศของแต่ละฝ่าย และให้คำปรึกษาด้านการลงทุน 4. ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน การประชุม สัมมนา และ 5. จัดสัมมนาสำหรับภาคธุรกิจและการจับคู่ธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมฯลฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุนจีน ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ภายใต้ระบบ One Stop Services ของ กนอ. ฯลฯ โดยมีกำหนดระยะ เวลา 2 ปีนับแต่วันที่ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายเหอ ซีออง นายกเทศมนตรีเมืองเจิ้งโจว กล่าวในการเป็นประธานสักขีพยานร่วมฯ ว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการพัฒนาความร่วมมือของจีนและไทยเท่านั้น แต่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการพัฒนาเมืองเจิ้งโจว และจังหวัดระยองอีกด้วย ซึ่งนับเป็นยุทธศาสตร์ "สองประเทศ สองนิคมฯ" ระหว่างจีนและไทย การทำงานร่วมกัน การพัฒนาอุตสาหกรรม การค้าข้ามพรมแดนและโลจิสติกส์ในกรอบ การดำเนินงาน "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เพื่อร่วมกันสร้างบทใหม่ของความร่วมมือแบบ win-win

 

A person in a suit holding a pen

Description automatically generated

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์

รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

 

3. หอการค้าถกอุ้มสินค้าเกษตร ปั้น 'ศูนย์พีอาร์' สินค้าทั่วไทย (ที่มา: เดลินิวส์, ประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2567)

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้องกับเกษตรและอาหาร เพื่อร่วมมือแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรของประเทศไทยอย่างยั่งยืนว่า ภาคเกษตรถือว่ามีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากภาคเกษตรไทยมีความเกี่ยวข้องกับประชากรทั้งประเทศ และมีสัดส่วนครัวเรือนในภาคเกษตรไทยถึง 1 ใน 3 ของครัวเรือนทั้งหมด ทั้งนี้ สินค้าเกษตรยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านรายได้ ผลผลิต และคุณภาพ ด้วยปัจจัยภายในและภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ อาทิ ความผันผวนของสภาพอากาศ ปัญหาภัยแล้ง โรคระบาดในสัตว์บก สัตว์น้ำ รวมไปถึงโรคระบาดในพืช ตลอดจนการแข่งขันในตลาดส่งออกของโลกที่มีแนวโน้มรุนแรงสูงขึ้น และกฎระเบียบ มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอุปสรรคซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นต้น ทั้งนี้ หอการค้าไทย สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง และห้างค้าปลีก-ส่งสมัยใหม่ จึงได้ดำเนินการช่วยพยุงราคาสินค้าสัตว์น้ำในประเทศ ร่วมกับกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว โดยได้ริเริ่มเข้าไปช่วยรับซื้อสินค้าสัตว์น้ำจากเกษตรกรชาวประมงในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม ซึ่งสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย และสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยได้ประสานงานกับเกษตรกรชาวประมง ในการรับซื้อสินค้าสัตว์น้ำโดยตรง เช่น ปลาโอดำ ปลาโอลาย ปลาไล้กอ ปลาทรายแดง ปลาตาหวาน หมึก ปลากะพงขาว เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานกลางและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (Coordination Center) เพื่อทำหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหารทั่วประเทศ รวมทั้งแก้ไขวิกฤติของภาคเกษตรและอาหารราคาตกต่ำ สินค้าเกษตรล้นตลาด ฯลฯ ให้เป็นรูปธรรม

 

ข่าวต่างประเทศ

A logo on the side of a building

Description automatically generated

 

4. ผอ. IMF เตือนตลาดเกิดใหม่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่พุ่งสูง (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2567)

นางคริสตาลินา กอร์เกียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ตนไม่คิดว่าจะมีผลกระทบเชิงลบใดๆ อันเนื่องมาจากความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่างยุโรปและสหรัฐ แต่ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ ทางด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อัตราดอกเบี้ยของประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกลางพยายามควบคุมเงินเฟ้อหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบัน ธนาคารเหล่านี้กำลังแสวงหาแนวทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังเศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพ แม้จะมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า สหรัฐจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นของสหรัฐนับเป็นข่าวร้ายของบรรดาตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากจะเพิ่มภาระหนี้สินซึ่งมักอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นการไหลออกของเงินทุน เนื่องจากนักลงทุน   หันไปเลือกรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในสหรัฐแทน รวมถึงสร้างความตึงเครียดในตลาดการเงิน

อย่างไรก็ตาม มันเป็นปัญหาที่ร้ายแรงกว่ามากสำหรับประเทศที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่หลายแห่ง ซึ่งเราได้เห็นผลกระทบดังกล่าวแล้วบางส่วนในญี่ปุ่น และผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องเฝ้าติดตามความผันผวนที่เพิ่มขึ้นอย่างใกล้ชิด

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)