ข่าวประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568

ข่าวในประเทศ

A person in a suit and tie

AI-generated content may be incorrect.

นายพิชัย นริพทะพันธุ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

1. เพิ่มการค้า-ลงทุนไทย (ที่มา: สยามรัฐ, ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568)

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานฉลองครบรอบ 70 ปี หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) ณ สนามเทพหัสดิน โดยมีผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน โดยได้ย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่นที่มีมายาวนานกว่า 600 ปี และจะครบรอบ 138 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตในปีนี้ พร้อมกล่าวถึงบทบาทสำคัญของญี่ปุ่นในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ของไทย โดยปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI Stock) มากที่สุดในไทย และยังคงให้ความสนใจขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 3 ของไทย โดยในปี 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 52,020.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในไทยสูงสุด โดยในปีที่ผ่านมา มีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่นจำนวน 271 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 49,148 ล้านบาท รัฐบาลนี้มุ่งหวังให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุดรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ประสบความสำเร็จในการ เจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หลายฉบับในช่วงที่ผ่านมา เช่น FTA ไทย-เอฟตา ที่สามารถเจรจาสำเร็จภายในเวลาเพียง 3 เดือน รวมถึง FTA ไทย-ภูฏาน และไทยยังมีเป้าหมายเร่งรัดเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรปให้สำเร็จภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มแต้มต่อให้กับภาคธุรกิจและการลงทุนของไทยเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขการส่งออกเติบโตสูงถึง 5.4% ในปี 2567 และมีมูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งคาดการณ์ว่าตอนนี้ตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคมปี 2568 น่าจะขยายตัวออกมาดี จะมีโอกาสได้เห็นตัวเลขสองหลักสนับสนุนการค้าและการลงทุนของญี่ปุ่น มุ่งดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น PCB เซมิคอนดักเตอร์ AI Data Center ดิจิทัล และพลังงานสะอาด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ได้หารือกับ H.E. Mr.HAYASHI Yoshimasa เลขาฯ ครม.ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงในรัฐบาลญี่ปุ่น ในประเด็นความร่วมมือในอุตสาหกรรมใหม่ที่ญี่ปุ่นกำลังสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่น ขอขอบคุณหอการค้าญี่ปุ่นกรุงเทพฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยตลอด 70 ปีที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ให้แก่นักลงทุนญี่ปุ่นในทุกด้าน และหวังว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่นจะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

 

A person in a suit sitting at a microphone

AI-generated content may be incorrect.

นายพรยศ กลั่นกรอง

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)

 

2. กรอ.ลุยปราบทุนจีนซุกสารเคมีอันตราย (ที่มา: มติชน, ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568)

นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารโกดัง ในตำบล  คานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังได้รับร้องเรียนพบการลักลอบเก็บสารเคมีอันตรายหลายชนิดภายในโกดัง อาจเป็นวัตถุอันตรายในความรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า อาคารโกดังขนาดพื้นที่ประมาณ 50 ตารางเมตร มีชาวจีนตกลงทำสัญญาเช่า 1 ปี ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567-31 ตุลาคม 2568 ภายในมีการแบ่งบรรจุสารเคมีหลายชนิดลงในบรรจุภัณฑ์ ติดป้ายเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบร่องรอยการล้างถังภาชนะบรรจุสารเคมีด้วยน้ำเปล่า ทดสอบวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ภายในแกลลอนบรรจุสารเคมี มีค่าเท่ากับ 1 เข้าข่ายอาจเป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 ตามบัญชี 5.2 ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2556 ไม่มีหลักฐานอนุญาตให้ครอบครอง จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 54(3) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ยึดอายัดวัสดุ สิ่งของ และอื่นๆ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้สุ่มเก็บตัวอย่างสารเคมีส่งมอบให้ตรวจสอบเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นำข้อมูลเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ณ สถานีตำรวจภูธรอุทัย ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง บทกำหนดโทษตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งข้อหาอื่นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

A person in a suit and tie

AI-generated content may be incorrect.

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

 

3. อุตฯยานยนต์อ่วม ยอดผลิต-ขาย-ส่งออกกอดคอร่วง (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568)

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม 2568 มีทั้งสิ้น 107,103 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.63% เพราะผลิตขายในประเทศลดลง 31.78% ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลง 21.10% ตามยอดส่งออกที่ลดลง โดยผลิตเพื่อส่งออกเดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 75,044 คัน เท่ากับ 70.07% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 หรือประมาณ 21.10% ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 32,059 คัน เท่ากับ 29.93% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ประมาณ 31.78% สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมกราคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,092 คันลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ประมาณ 12.26% เพราะสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศปี 2567 ขยายตัวในอัตราต่ำที่ 2.5% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงโดยเฉพาะผลผลิตยานยนต์ที่มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากลดลง แรงงานจำนวนมากมีรายได้ลดลง ทำให้ใช้จ่ายลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่ำ ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อซื้อรถกระบะให้เร็วขึ้นจากสี่เดือนเป็นสองเดือนเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตมากขึ้น จ้างงานมากขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้น เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราสูงขึ้นซึ่งจะสร้างบรรยากาศการลงทุนให้เร็วขึ้นตามความประสงค์ของนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมกราคม 2568 ส่งออกได้ 62,321 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ประมาณ 28.13% ต่ำสุดรอบ 33 เดือน จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการตอบโต้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งการส่งออกของรถยนต์ไฟฟ้าจีนราคาถูกมาแข่งขันมากขึ้นในประเทศคู่ค้า และรถยนต์ส่งออกบางรุ่นกำลังจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ และจากเดือนธันวาคมมีวันหยุดมากบางบริษัทเปิดทำการช้าในเดือนมกราคม จึงผลิตได้น้อย ทำให้เดือนมกราคมมีรถส่งออกได้น้อยตลาดออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ส่วนทางด้านยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมกราคม 2568 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 14,711 คัน ลดลงจากเดือนมกราคมปีที่แล้ว 7.73% ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่ 13,545 คัน ลดลงจากเดือนมกราคมปีที่แล้ว 4.23%

 

ข่าวต่างประเทศ 

A flag with a red blue and black circle

AI-generated content may be incorrect.

 

4. แบงก์ชาติเกาหลีใต้หั่นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568)

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% ในการประชุมวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่านโยบายของ BOK มุ่งเน้นไปที่การเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน BOK ได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศลงสู่ระดับ 1.5% ในปี 2568 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.9%

อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งล่าสุดของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2567 โดยระบุว่า GDP ขยายตัวเพียง 1.2% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส ขณะที่ BOK ระบุว่าเป็นผลมาจากการชะลอตัวของการอุปโภคบริโภคและภาวะซบเซาในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

 

หมายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำด (มหาชน)