ข่าวประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2568

ข่าวในประเทศ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

 

1. ลุยยกระดับอุตฯ ดิจิทัลไทยสู่ระดับสากล (ที่มา: แนวหน้า, ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2568)

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม "ISO/IEC JTC 1/SC 7 Software and systems engineering ระดับนานาชาติ" ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 8-13 มิถุนายน 2568 ที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นเวทีให้ไทยได้มีส่วนร่วมในการจัดทำมาตรฐานระหว่างประเทศสาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลภายในประเทศ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการจัดทำมาตรฐานระหว่างประเทศสาขาดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อม และลดอุปสรรคทางการค้าแก่ผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้ อุตสาหกรรมดิจิทัล เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงในการสร้างเม็ดเงินจากเงินตราต่างประเทศ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านดิจิทัล รวมทั้งเร่งผลักดันภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล มีทั้งการส่งเสริมการลงทุนเรื่อง cloud services และ data centers ตลอดจนการลงทุนที่เกี่ยวข้องด้านดิจิทัล ดังนั้น การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับนานาชาติในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะแสดงถึงศักยภาพของไทยในการยกระดับผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล และยังเป็นการร่วมกันขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ให้เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ รวมไปถึงการพัฒนามาตรฐานดิจิทัลในด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวจะมีผู้แทนจากประเทศสมาชิก ISO เข้าร่วมกว่า 38 ประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟินแลนด์ มาเลเซีย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย อินเดีย และอิสราเอล เป็นต้น โดยภายหลังการประชุมในเดือนมิถุนายน สมอ.จะเตรียมการ ลงนามความร่วมมือ (MoU) กับสำนักงานส่งเสริม เศรษฐกิจดิจิทัล และ ส.อ.ท เพื่อร่วมมือกันดำเนินการยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยสู่ระดับสากล โดยใช้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเป็นเครื่องมือหลักในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และร่วมกันขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ทำให้เกิดการพัฒนามาตรฐานดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมไทยเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบัน สมอ. มีมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดิจิทัลมากกว่า 100 มาตรฐาน ครอบคลุมหลากหลายสาขา เช่น ปัญญา ประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) บล็อกเชน ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) และในปี 2568 นี้ จะมีการออกมาตรฐานในสาขาใหม่อย่างเทคโนโลยีควอนตัม (Quantum Technology) เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศในระยะยาว

 

A person in a suit sitting at a table

AI-generated content may be incorrect.

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

 

2. เอกชนหนุนชะลอแจกเงินหมื่น (ที่มา: เดลินิวส์, ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2568)

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจชะลอแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 และโยกเงินงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการที่รัฐบาล มีการปรับแผนการใช้เงินงบประมาณให้เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งการกระตุ้น รวมถึงรองรับผลที่จะเกิดขึ้นกับภาคการส่งออก และการจ้างงาน เพราะหากส่งออกได้รับผลกระทบ มียอดส่งออกที่ลดลง จะส่งผลต่อกลุ่มโรงงาน การจ้างงาน และเศรษฐกิจในภาพรวมได้ ซึ่งเงินจำนวน 1.57 แสนล้านบาท เวลานี้ถูกนำมาใช้เพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม หลังจากนั้นหากในอนาคตเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติจะกลับมาแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 ต่อก็สามารถทำได้ เท่ากับว่าเป็นการปรับแผนจากสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่องของมาตรการภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ ซึ่งเวลานี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจไทย และอาจจะมีความไม่แน่นอน เพราะอยู่ระหว่างการเจรจายังไม่รู้ว่าผล จะออกมาเป็นอย่างไร ดังนั้นการที่รัฐบาลต้องปรับแผนเพื่อหางบประมาณมากระตุ้นเศรษฐกิจ และรวมถึงการเตรียมการที่จะต้องรองรับถึงมาตรการที่อาจจะได้รับผลกระทบหากเกิดกรณีสงครามการค้า

อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) โลก มีการปรับลดลง เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ทุกสำนักที่มีความเกี่ยวข้องกับการคาดการณ์เศรษฐกิจมีการปรับลดจีดีพีลงค่อนข้างมาก โดยจีดีพีไตรมาส 1 ที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศว่า โต 3.1% ถือว่ากือบต่ำที่สุดในภูมิภาค สะท้อนถึงความเปราะบาง และปัญหาที่ยังมีอยู่ในระบบ เช่น หนี้ครัวเรือน อีกทั้งไทยยังเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกจำนวนมากและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งสถานการณ์โดยรวมยังคงต้องจับตา เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงไปอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจากยุโรป รวมถึงอิสราเอล อินเดียเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็กังวลว่าเป้าของนักท่องเที่ยวที่วางเป้าหมายไว้ที่ 38-39 ล้านคน อาจจะไปไม่ถึง

 

A person in a suit and tie

AI-generated content may be incorrect.

นายจุฬา สุขมานพ

เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)

 

3. สกพอ.ผนึกการกีฬาฯ ตั้งศูนย์กีฬานานาชาติยกระดับพื้นที่ EECiti (ที่มา: ข่าวหุ้น, ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2568)

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อขับเคลื่อนโครงการ “ศูนย์กีฬานานาชาติ จังหวัดชลบุรี” ในพื้นที่โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City หรือ EECiti) ทั้งนี้ กกท.ได้จัดทำโครงการศูนย์กีฬานานาชาติ ที่จะมีมาตรฐานระดับโลก และเป็นไปตามมาตรฐานที่สหพันธ์กีฬานานาชาติกำหนด บนพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ ในโครงการ EECiti ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และสามารถรองรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาสุขภาพของประชาชน ขณะเดียวกัน ยังเป็นการต่อยอดการกีฬาสู่ระดับอาชีพ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการกีฬาให้กับประเทศ ด้วยการมีสปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่สามารถใช้สำหรับจัดการแข่งขันกีฬา อีเวนต์เทศกาลขนาดใหญ่ คอนเสิร์ต และยังใช้งานได้อีกหลายวัตถุประสงค์ รวมถึงมีศูนย์การฝึกซ้อมกีฬา ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและเสริมสร้างสมรรถภาพนักกีฬา ศูนย์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การกีฬาระดับโลกสำหรับให้บริการทางการกีฬาอื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม การลงนาม MOU ในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่สกพอ.จะประสานกับกกท.เพื่อเดินหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์กีฬานานาชาติ จะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา และสามารถรองรับการจัดมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติในอนาคต ซึ่งจะสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษภายในโครงการ EECiti เพื่อดึงดูดนักลงทุนและประชากร ที่คาดว่าจะมีผู้เข้ามาอยู่อาศัยประมาณ 3.5 แสนคน สร้างงาน 2 แสนตำแหน่ง ในระยะเวลา 10 ปี เป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 ของโลก ในปี 2580 โดยโครงการ EECiti มีพื้นที่รวมประมาณ 15,000 ไร่ ยังสามารถรองรับโครงการที่สำคัญๆ เช่น โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) ที่มีความสนใจต้องการลงทุนในพื้นที่ EEC ต่อไป

 

 

ข่าวต่างประเทศ

A blue and white flag with a yellow sun

AI-generated content may be incorrect.

4. GDP อาร์เจนตินา Q1/68 พุ่ง 6.1% แต่เดือนมี.ค.แผ่ว หดตัวครั้งแรกในรอบปี (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2568)

สถาบันสถิติแห่งชาติ (INDEC) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจอาร์เจนตินาในไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัว 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนมีนาคม 2568 เติบโต 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กลับหดตัวลง 1.8% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ นับเป็นการปรับตัวลงแบบเดือนต่อเดือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเติบโต เมื่อเทียบรายปีในเดือนมีนาคม ได้แรงหนุนจากภาคบริการทางการเงิน การก่อสร้าง การค้า และภาษีสุทธิ ส่วนภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องขยายตัว 6% ขณะที่ภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 4.2% ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวก็ถูกลดทอนด้วยตัวเลขที่ลดลงในภาคส่วนสำคัญอื่นๆ โดยภาคไฟฟ้า ก๊าซ และประปา ปรับตัวลง 4.3% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมีนาคม ขณะที่ภาคบริการด้านการโรงแรมหดตัว 3.6% สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอาร์เจนตินายังคงมีมุมมองเชิงบวก โดยคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตราว 5% ตลอดทั้งปี 2568 และยังให้คำมั่นว่าจะผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยไม่หันไปพึ่งพาการพิมพ์ธนบัตรเพิ่ม ซึ่งเป็นจุดยืนทางนโยบายที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อพิจารณาจากสัญญาณที่หลากหลายจากรายงานกิจกรรมทางเศรษฐกิจล่าสุด

 

มายเหตุ : ค่าเงินบาท อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ราคาทองคำ อ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันและราคา NGV อ้างอิงจากราคาน้ำมันขายปลีกบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)